ASIAN เปิดงบปี 58 รายได้ และกำไรดีเกินคาด ผลประกอบการกลับมาพลิกมีกำไร 183 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 241% จากการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเน้นผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า และอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก ตั้งเป้ารายได้ปี 59 โต 10%
นายสมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดปี 2558 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 183 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2557 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 129 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 241.7% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับปี 2558 อยู่ที่ 9.6% ของยอดขาย เทียบกับปี 2557 ที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ราว 5.6% นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยบวกในด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข็งค่าขึ้นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ทำให้กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 22 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2558 และจากผลประกอบการที่ดีนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานรอบปี 2558 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท กำหนดให้จ่ายเงินปันผลวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 และขึ้น XD วันที่ 3 พฤษภาคม 2559 นี้
สำหรับรายได้รวมของบริษัทฯ ในปี 2558 อยู่ที่ 7,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปี 2557 โดยยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็งมีปริมาณเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 3,593 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่า 7% เทียบกับปีก่อนหน้า กลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้ง ซึ่งเป็นยอดขายมากกว่าครึ่งของยอดขายในกลุ่มนี้ ประสบต่อภาวะราคาตกต่ำในช่วงไตรมาสที่ 4 ที่ผ่านมา และแม้ว่าจะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นในช่วงต้นปี 2559 ราคาก็ยังปรับขึ้นไม่มากนัก เอเชี่ยนจึงมุ่งเน้นกลยุทธ์เพิ่มยอดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าที่มีการแกว่งตัวด้านราคาน้อยกว่ามาก ขณะเดียวกัน ยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทูน่า อยู่ที่ราว 1,192 ล้านบาท ลดลงเกือบ 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง ประกอบกับในปี 2558 ยอดผลิต และส่งออกผลิตภัณฑ์ทูน่าในไทยไปยังสหรัฐอเมริกา ลดลงราว 20% ซึ่งในธุรกิจนี้ เอเชี่ยนก็มุ่งไปยังลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะมากขึ้น ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า อยู่ที่ประมาณ 1,602 ล้านบาท โดยที่เอเชี่ยนวางกลยุทธ์ที่จะเป็น “ผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์” หรือ “co-developer” ให้แก่เจ้าของตราสินค้าที่ใหญ่ และมีการเติบโตสูง โดยอาศัยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และมีคุณภาพสูง โดยกลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในปี 2558 ที่ผ่านมา
ขณะที่ยอดขายในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์น้ำเติบโตขึ้นราว 15% มาอยู่ที่ประมาณ 1,110 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายอาหารปลา หลังจากวิกฤตโรคตายด่วนในกุ้งระบาดเมื่อราวปี 2556 ผลผลิตกุ้งในประเทศไทยลดลงเหลือเพียงประมาณ 200,000 ตัน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาณก่อนหน้า โดยคาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวเป็นลำดับ จากการที่เกษตรกรสามารถรับมือกับสถานการณ์ของโรคได้ดีขึ้น และคาดการณ์ได้ว่า ยอดขายของเอเชี่ยนจะเพิ่มขึ้นจากการที่เอเชี่ยนมุ่งรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ และมีการบริหารต้นทุนอย่างสมเหตุสมผล ขณะที่กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายเป็นการนำเข้าผลิตภัณฑ์กลุ่มปลาแช่เยือกแข็งเพื่อจำหน่ายไปทั่วประเทศ ยอดขายของธุรกิจในกลุ่มนี้ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 441 ล้านบาท แต่ก็มีอัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน
“ผลงานปี 58 ที่ออกมาถือว่าเป็นที่น่าประทับใจ ช่วงครึ่งหลังปี 2558 เป็นช่วงที่ผลประกอบการออกมาดีเมื่อเทียบกับปีก่อน ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 19% อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 150 ล้านบาท เป็นราว 509 ล้านบาท ซึ่งผมภูมิใจที่ธุรกิจของเราทุกแห่งต่างก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้น และขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการจัดทำแผนกลยุทธ์การดำเนินงานโดยจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 1 นี้ ซึ่งกุญแจสำคัญอยู่ที่ “การเติบโต” และ “ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า” ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าในปี 2559 ผลประกอบการของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2558 ซึ่งคาดว่าจะโตได้อย่างน้อย 10% ส่วนกำไรเพิ่มจากปีก่อน เพราะอัตราการเติบโตของประชากร ส่งผลให้ธุรกิจผลิตอาหารมีการเติบโตขึ้นทุกปี”
นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงที่สุด จากการที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น และให้ความสำคัญต่อสุขภาพมากขึ้น โดย ASIAN มีสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2559 ธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้ง และอาหารกุ้งจะโดดเด่น ควบคู่กับการขยายตัวของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะเดียวกัน ASIAN ยังคงไม่ปิดกั้นโอกาสเรื่องการควบรวมกิจการหากเป็นดีลที่เหมาะ
ด้าน Mr.Rik van Westendorp ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN กล่าวว่า สถานะทางการเงินของเอเชี่ยนฯ ดีขึ้นมากในปี 2558 โดยที่อัตราส่วนทางการเงินดีว่าอัตราส่วนที่ต้องดำรงตามข้อกำหนดที่มีกับสถาบันการเงิน และบริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าที่จะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยเน้นการปรับปรุงกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ผ่านมา เอเชี่ยนมีการลงทุนที่ดี และคาดว่าการลงทุนในอนาคตของเราจะอยู่ในราว 50-60% ของค่าเสื่อมราคาต่อปี โดยจะเป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งมีการเติบโตค่อนข้างเร็ว และยังให้ความสำคัญต่อการมีงบดุลที่ดีขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับมือต่อความผันผวนในตลาด และตอบสนองเป้าหมายการเติบโตของกลุ่มบริษัท
ส่วน นายวัลลภ ล้อมลิ้ม กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ บริษัท เอเชี่ยน ฟีด จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุด เมื่อช่วงปลายเดือน 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เอเชี่ยนฯ ได้จัดงานพบปะสังสรรค์ลูกค้าหลักอาหารกุ้ง และปลา ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับบริษัทฯ เข้าร่วมโครงการ ณ โรงแรมร้อยเกาะ จ.สุราษฎร์ธานี ภายใต้โครงการ “เอเชี่ยนแฟมิลี่” เพื่อเป็นการจับมือร่วมกันระหว่างธุรกิจอาหาร ฟาร์ม และห้องเย็นแปรรูป โดยเกษตกรที่เข้าร่วมโครงการใช้อาหารกุ้งจากเอเชี่ยนฟีด และห้องเย็น เข้ามารับซื้อ โดยมีตลาดที่แน่นอนแบบร่วมมือกันเดินเหมือนครอบครัวเดียวกัน ในราคาที่เกษตกรพึงพอใจ ไม่ใช่ Contract Farming ซึ่งจะยั่งยืนกว่า
นอกจากนี้ กรณีสืบเนื่องจากธุรกิจส่งออกกุ้งที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาที่ไทยได้ใบเหลืองจากยุโรป และเทียร์ 3 จากสหรัฐอเมริกา ทำให้เอเชี่ยนฯ ได้ฉีกกลยุทธ์ใหม่โดยเน้นผลิตกุ้งต้มทั้งตัวสีแดงส่งไปตลาดจีน ซึ่งสินค้ากลุ่มนี้เน้นเทคนิคพิเศษ และสามารถสร้างกำไรได้ดีกว่ากุ้งชนิดอื่นๆ รวมถึงเราเน้นส่งออกตลาดที่เอเชี่ยนมีความแข็งแรง และทำกำไรได้ดี เช่น ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ส่วนตลาดอเมริกา วางแผนผลักดันในเรื่อง BAP 4 star และการผลิตอาหารกุ้ง Non-IUU เพื่อรองรับตลาดยุโรปด้วย ดังนั้น จากกลยุทธ์ดังกล่าวนี้คาดว่าจะช่วยผลักดันให้เอเชี่ยนฯ สามารถทำกำไรในปีนี้ และเติบโตขึ้นได้ตามคาด