xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีฯ ตั้งเป้าสินเชื่อโต 5-6% สานต่อแผน 3 ปี รุก CLMV

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แบงก์กรุงศรีฯ ตั้งเป้าสินเชื่อโต 5-6% เน้นรายใหญ่ รายย่อย คุมเอ็นพีแอลไม่เกิน 2.5% รับ NIM หดหลังควบรวม BTMU เหตุโครงสร้างเปลี่ยนรายใหญ่เพิ่มส่วนต่างน้อยลง หันเร่งรายได้ค่าธรรมเนียมชดเชย พร้อมควงเครือข่ายรุก CLMV มุ่งเป็นสถาบันการเงินชั้นนำระดับภูมิภาคที่ก้าวสู่เวทีโลก

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารจะมุ่งขยายบริการเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมทั้งในกลุ่มลูกค้ารายย่อย และลูกค้าธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV รวมไปถึงกลุ่ม AEC ด้วยการประสานความร่วมมือกับเครือข่ายของธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (BTMU) ที่ครอบคลุม 7 ประเทศในอาเซียน และเข้าไปสู่การเป็นสถาบันการเงินชั้นนำระดับภูมิภาคที่ก้าวสู่เวทีโลก จากจุดเด่นด้านเครือข่ายต่างประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์ และบริการระหว่างประเทศของธนาคาร

“ปีที่ผ่านมา ธนาคารประสบความสำเร็จในการควบรวมกิจการ BTMU สาขากรุงเทพฯ รวมทั้งได้ดำเนินการปรับปรุงระบบการทำงานในด้านต่างๆ ให้เข้าที่มากขึ้น ดังนั้น ในปีนี้ถือเป็นการสานต่อแผนการดำเนินธุรกิจระยะกลาง 3 ปี (2558-2560) ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ ผลักดันการเติบโตของสินทรัพย์ เพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย และลดต้นทุนทางการเงิน”

ทั้งนี้ เป้าหมายทางการเงินของธนาคารในปีนี้ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 5-6% จาก 4.7% ในปี 2558 เน้นในกลุ่มลูกค้ารายใหญ่เติบโต 6% รายย่อย 7% และเอสเอ็มอี 3% ใกล้เคียงกับอัตรการเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่ NIM ตั้งเป้าที่ 3.7% จากปีก่อนที่ 4.15% ซึ่งการลดลงของ NIM มาจากโครงสร้างสินเชื่อที่เปลี่ยนไปหลังการควบรวม BTMU ทำให้สินเชื่อรายใหญ่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการแข่งขันในระบบสูงทำให้ NIM ลดลง

พร้อมกันนั้น ก็จะเพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยตั้งเป้าเติบโต 7% โดยเฉพาะในส่วนของธุรกรรมการเงินต่างประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยนสอดคล้องต่อแนวทางของธนาคารที่จะสนับสนุนให้ลูกค้าออกไปลงทุนต่างประเทศ และให้ลูกค้าต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยด้วย และในส่วนของหนี้ที่ไม่ก่อให้รายได้ (เอ็นพีแอล) จะบริหารจัดการให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2.5% จากปีก่อนที่ 2.24%

นายโกโตะ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของสินเชื่อนั้นปริมาณไม่สำคัญเท่าคุณภาพ ซึ่งจากแนวทางการปล่อยสินเชื่อย่างระมัดระวัง ประกอบกับมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างทันท่วงที และการขายเอ็นพีแอลบางส่วนออกไปจะทำให้ธนาคารสามารถรักษาเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับที่ตั้งเป้าไว้ได้

สำหรับแนวทางการขยายธุรกิจสู่กลุ่มประเทศ CLMV นั้น ล่าสุด ธนาคารได้บรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อกิจการของบริษัทหัตถากสิกา (Hattha Kaksekar : HKL) ในกัมพูชา ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากทางการของแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างการหารือแนวทางการทำธุรกิจกับธนาคารเวียดทิน ในประเทศเวียดนาม ซึ่งทาง BTMU ถือหุ้นอยู่ส่วนหนึ่ง

นอกจากนี้ ก็ได้จัดงบประมาณไว้จำนวน 2.7 พันล้านบาท เพื่อลงทุนด้านเทคโนโลยี พร้อมกันนั้น ในปีนี้ก็จะเปิดสาขาเพิ่ม 30 สาขา และติดตั้ง ATM ใหม่ 700 เครื่อง เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า แม้ปัจจุบันจะมีลูกค้าส่วนหนึ่งหันไปใช้อิเล็กทรอนิกส์ แบงกิ้งมากขึ้น แต่ในบางจุดการขยายฐานลูกค้าก็ยังต้องใช้สาขาเป็นจุดอำนวยความสะดวกอยู่ และเมื่อถึงระดับหนึ่งนโยบายด้านการขยายสาขาของธนาคารคงจะชะลอลง โดยปัจจุบันจากฐานลูกค้า 7 ล้านราย มีลูกค้าใช้อิเล็กทรอนิกส์ แบงกิ้ง 2.4 ล้านราย

“เรามองเศรษฐกิจไทยปีนี้คงจะดีกว่าปีก่อน แต่ก็จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ซึ่งเราเองก็คงเหมือนกับหลายๆ ประเทศที่รอความชัดเจนในด้านต่างๆ เพื่อที่จะพิจารณาเดินหน้าต่อไป”
กองทุนต่างชาติเล็งเข้าถือหุ้น WHA 5.8% บอร์ดฟุ้งธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง คาดเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1.7 หมื่นล้านบาท
กองทุนต่างชาติเล็งเข้าถือหุ้น WHA 5.8% บอร์ดฟุ้งธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง คาดเป้ารายได้ปีนี้แตะ 1.7 หมื่นล้านบาท
กองทุน Templeton fund และ Capital Research จากต่างชาติเข้าถือหุ้น ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำนวน 5.8% ในสัดส่วนของ นางจรีพร จารุกรสกุล และ นายสมยศ อนันตประยูร บอร์ดคุยฟุ้งกองทุนเล็งเห็นโอกาสการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ภายหลังการควบรวมกิจการ HEMRAJ บวกกับราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการลงทุน และแผนการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ทั้งด้านคลังสินค้าศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และการบริหารคลังข้อมูลดิจิตอล หนุนเป้ารายได้ปีนี้โต 1.7 หมื่นล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น