ไทยออพติคอล กรุ๊ป ประกาศแผนการลงทุน 3 ปี ตั้งงบลงทุนระหว่าง 450-500 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคล และพัฒนาธุรกิจใหม่ ตั้งเป้ารายได้เติบโตต่อเนื่องกว่า 10% ทุกปี จ่อขยายตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบอาเซียนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว 95%
นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยออพติคอล กรุ๊ป หรือ TOG กล่าวว่า ในปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,824 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 230 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรเท่ากับ 12.6% ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากตลาดเลนส์สายทั่วโลกมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้เลนส์สายตาทั่วโลกกว่า 1.8 พันล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่าปีละ 3% โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญจากการใช้แว่นสายตาในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ทั้งนี้ TOG วางแผนการลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2559-2561) ภายใต้งบประมาณกว่า 800 ล้านบาท เพื่อรุกตลาดเลนส์สายตาทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบอาเซียน เช่น อินโดนีเซีย พม่า และเวียดนาม เป็นต้น
สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2559 นี้ บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนระหว่าง 450-500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคล หรือเลนส์สั่งฝนพิเศษ (Prescription Lens หรือ Rx Lens) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรที่ดี จำนวน 300-350 ล้านบาท และงบลงทุนปกติ 150 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงงบประมาณในการรีแบรนดิ้งองค์กรแบบ 360 องศา เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่องกว่า 10% ทุกปี
ในส่วนของการรีแบรนดิ้งองค์กรนั้น TOG พลิกโฉมภาพลักษณ์ของ TOG เพื่อสร้างความทันสมัยให้แก่แบรนด์ใหม่ทั้งหมด โดยใช้ธีม “TOG 360 WORLDSIGHT” ซึ่งหมายถึง มุมมองแบบ 360 องศา สะท้อนถึงผลิตภัณฑ์ และบริการที่กว้าง สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้า และวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของบริษัทที่ก้าวหน้า และมองไปยังอนาคต โดยมีการเปลี่ยนแปลงใน 4 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนที่หนึ่ง การสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ หรือโลโก้ให้โดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบบรรจุภัณฑ์ และดิสเพลย์สินค้าให้มีความสดใสยิ่งขึ้น
ส่วนที่สอง คือ การพัฒนาคุณภาพเลนส์สายตาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญต่อคุณภาพของวัตถุดิบในการผลิต ตลอดจนนวัตกรรมในการพัฒนาเลนส์สายตาให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ คือ การพัฒนาเลนส์ชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง
ส่วนที่สาม คือ การปรับปรุงโรงงานผลิต และเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยในอนาคตจะเป็นโรงงานแบบ Fully Automatic ซึ่งสามารถรองรับกำลังการผลิตอีกมากกว่า 1 ล้านชิ้นต่อปี คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ และสุดท้าย คือ การปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อลดอายุองค์กรให้ทันสมัย มีความคล่องตัว และเข้ากับยุค New Generation มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ TOG ยังตั้งเป้ารุกขยายตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบอาเซียนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว 95% โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในแถบยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา และเอเชียแปซิฟิก เป็นต้น โดยการมุ่งขยายตลาด AEC นั้น บริษัทฯ วางแผนขายสินค้าผ่านบริษัทร่วมทุน 3 ประเทศ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาและเจราจากับพันธมิตรเพิ่มเติมในประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และพม่า เพื่อขยายสาขารับกำลังซื้อในตลาด AEC
“บริษัทฯ มั่นใจว่า การปรับองค์กรครั้งใหญ่ของ TOG ครั้งนี้ ไปจนถึงอีก 3 ปีข้างหน้า จะผลักดันให้บริษัทฯ สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในฐานะผู้ผลิตเลนส์อิสระในระดับโลก และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคที่ใช้เลนส์สายตาคุณภาพอย่างแพร่หลายทั่วโลก”
