หลังตลาดหุ้นจีน รวมถึงค่าเงินหยวนทรุดอย่างหนักมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สวนทางต่อค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากการคาดการณ์ว่า เฟดจะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ ภาพที่เกิดขึ้นทำให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนลดลงอย่างรวดเร็ว อาจมองได้ว่าเกมนี้พญามังกรจะพ่ายแพ้ต่อพญาอินทรีเสียแล้ว
ทว่า เมื่อคืนปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดสิ่งที่อาจทำให้สถานการณ์พลิกกลับก็เป็นได้ เพราะค่าเงินดอลลาร์กลับถูกเทขายอย่างหนักจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาแย่กว่าที่คาดพอสมควร โดยเฉพาะอัตราการจ้างงาน นอกจากนี้ จีดีพีไตรมาส 4 ของสหรัฐฯ ยังออกมาขยายตัวเพียงแค่ 0.7% ผลคือค่าเงินสกุลอื่นทั่วโลกอย่างเช่น ยูโร รวมถึงเงินบาทต่างแข็งค่าคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว
รวมถึงมีความเห็นออกมาจากหนึ่งในรองประธานของเฟดที่บอกว่า การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อาจจะต้องชะลอออกไประยะหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจริงหรือไม่
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สถานการณ์ที่สหรัฐฯ กำลังเป็นต่อในสงครามการเงินโลกที่กำลังไล่บี้จีน โดยมีดอกเบี้ยเป็นอาวุธสำคัญ อาจจะไม่แน่นอนอีกต่อไป เพราะถ้าสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยได้ไม่กี่ครั้งในปีนี้ หรือไม่มีโอกาสขึ้นได้อีกสักครั้ง โอกาสที่จะโจมตีตลาดการเงินของจีนก็เป็นไปได้ยาก
เผลอๆ ดาบที่ง้างเตรียมฟันคนอื่นอาจจะตกกลับมาทำร้ายตัวเองก็เป็นได้ เพราะการขึ้นดอกเบี้ยในขณะที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่ดีพอ อาจทำให้ต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้นไปกดดันเศรษฐกิจ เหมือนกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ หากถอนตัวออกมาเร็วกว่าเวลาอันควร (อย่างที่ญี่ปุ่นเคยทำ) อาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดีแน่นอน
ที่สำคัญอย่าลืมว่า จีนยังเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของสหรัฐฯ โดยเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลกว่า 1.26 ล้านล้านดอลลาร์ และเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ยังเข้าไปซื้อพันธบัตรเพิ่มกว่า 9,700 ล้านดอลลาร์ สิ่งนี้ยังเป็นตัวประกันสำคัญหากสหรัฐฯ ต้องการที่จะทำลายระบบการเงินของจีน
หากใช้ทฤษฎีสมคบคิดมาอธิบาย สหรัฐฯ อาจจะทำลายเศรษฐกิจรัสเซียลงได้ระดับหนึ่งจากการเพิ่มกำลังผลิต และส่งออกน้ำมันออกมาทำให้ราคาพลังงานซึ่งเป็นสินค้าเศรษฐกิจอันดับ 1 ของรัสเซียถูกเทขายอย่างหนัก ค่าเงินรูเบิลร่วงลงหนักเป็นประวัติการณ์ กระทบไปถึงภาคเศรษฐกิจจริงของรัสเซียที่คาดว่าปีนี้อาจติดลบถึง 5% อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังคงแสดงศักยภาพทางการทหารอย่างไม่เกรงกลัว
การที่สหรัฐฯ จะใช้ตลาดการเงินเข้ามาโจมตีจีนแบบที่ทำกับรัสเซียก็อาจทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะจีนได้สะสมเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไว้มหาศาลในช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว ถือเป็นกระสุนที่เอาไว้ใช่ต่อกรกับศัตรูได้อย่างดี และที่ผ่านมา สหรัฐฯ สามารถทลายรังของกลุ่มประเทศ BRICS ได้หนักๆ เพียงแค่บราซิลเท่านั้นที่มีอาการหนักกว่าเพื่อน ขณะที่รัสเซีย จีน และอินเดีย ยังรับมือไหว
เกมการเมืองบนสนามจริง หมีขาวรัสเซียแสดงตัวชัดเจนแล้วว่า พร้อมรบอย่างเต็มที่ในสมรภูมิตะวันออกกลาง ส่วนสงครามในอีกสนามหนึ่ง จีนก็ยังตั้งรับเต็มที่ เกมนี้อยากจะฟันธงว่าใครจะอยู่ใครจะไป แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแพ้ ตลาดการเงินโลกจะปั่นป่วนอย่างแน่นอน
นเรศ เหล่าพรรณราย
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง
