รอยเตอร์/เอเอฟพี - พบชิ้นส่วนเหล็กที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเศษซากเครื่องบินถูกซัดเกยตื้นชายฝั่งทางตะวันออกของมาเลเซียในวันพุธ (27 ม.ค.) กระพือข่าวลือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ว่ามันเป็นชิ้นส่วนของเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่สูญหายไปเกือบ 2 ปีก่อน
สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวมีสีขาวและวัดความยาวได้ 2 เมตร ถูกพบกำลังลอยอยู่ในน้ำใกล้หมู่บ้านเบซุต ในรัฐตรังกานู ทางตะวันออกของมาเลเซีย
วัตถุชิ้นนี้ถูกพบบนแนวชายฝั่งทะเลจีนใต้ ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดนครศรีธรรมราชของไทย ซึ่งเพิ่งพบซากที่ต้องสงสัยว่าเป็นชิ้นส่วนเครื่องบินเมื่อวันเสาร์ (23 ม.ค.)
อย่างไรก็ตาม ในวันอังคาร (26 ม.ค.) มาเลเซียยืนยันว่าซากที่พบบริเวณชายฝั่งทางภาคใต้ของไทยนั้นไม่ได้เป็นของเที่ยวบิน MH370 คลายข้อสงสัยไปได้เปราะหนึ่ง แต่ก็ทำให้ชะตากรรมของเที่ยวบินที่หายสาบสูญยังคงอยู่ในความมืดมัวต่อไป
หนึ่งวันก่อนหน้านั้น มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรีส์ บริษัทผู้ผลิตจรวดสัญชาติญี่ปุ่นแถลงว่า ชิ้นส่วนโลหะขนาดใหญ่ซึ่งถูกซัดขึ้นมาบนชายหาดของประเทศไทยนั้น น่าจะเป็นชิ้นส่วนของจรวดซึ่งทางญี่ปุ่นส่งขึ้นไป แต่ยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ
ในส่วนของเศษซากที่พบล่าสุดนั้น ทางโฆษกกระทรวงคมนาคมมาเลเซียเผยว่าเจ้าหน้าที่จากกรมการบินพลเรือนกำลังดำเนินการตรวจสอบ “กรมการบินพลเรือนได้รับแจ้งจากตำรวจและจะเข้าสืบสวน”
เที่ยวบิน MH370 สูญหายไปพร้อมกับลูกเรือและผู้โดยสาร 239 คนระหว่างมุ่งหน้าจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังปักกิ่งเมื่อเดือนมีนาคม 2014 ทั้งนี้ 2 ปีผ่านไป หลักฐานชิ้นสำคัญชิ้นเดียวที่บ่งชี้ว่าเครื่องบินลำดังกล่าวประสบโศกนาฏกรรมก็คือชิ้นส่วนปีกความยาว 2 เมตรที่พบบนชายหาดเกาะรีอูนิยงของฝรั่งเศส กลางมหาสมุทรอินเดียเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน
คณะสืบสวนเชื่อมานานว่าเครื่องบินตกในพื้นที่ห่างไกลของมหาสมุทรอินเดีย ห่างจากชายฝั่งทางตะวันตกของออสเตรเลียอย่างมาก
ปฏิบัติการค้นหาได้ประสบปัญหาสำคัญ หลังกรมความปลอดภัยการคมนาคมขนส่งของออสเตรเลีย ซึ่งทำหน้าที่ดูแลศูนย์ประสานตัวแทนร่วมของนานาชาติที่ร่วมการค้นหา แถลงในวันจันทร์ (25) ว่าเครื่องโซนาร์ใต้น้ำ ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในการค้นหา ได้เกิดสูญหายไปใต้พื้นมหาสมุทรภายหลังชนเข้ากับภูเขาไฟใต้ทะเล
ทั้งนี้ เครื่องโซนาร์ใต้น้ำ หรือ “โทฟิช” ดังกล่าว ซึ่งถูกลากอยู่ใต้เรือค้นหาลำหนึ่ง รวมทั้งมีอุปกรณ์ค้นหาต่างๆ ติดอยู่ ได้ชนกับภูเขาไฟโคลนลูกหนึ่งซึ่งสูงจากพื้นทะเล 2,200 เมตร ทำให้สายเคเบิลของเครื่องขาด และเครื่องร่วงลงที่ก้นบึ้งมหาสมุทรเมื่อวันอาทิตย์ (24) อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คาดว่าสามารถกู้เครื่องโทฟิชขึ้นมาได้ แต่ก็จะต้องใช้เวลาในการนี้ รวมทั้งต้องนำเรือค้นหากลับสู่ฝั่งเพื่อติดตั้งสายเคเบิลเส้นใหม่
เหล่าญาติๆ ของผู้ที่อยู่บนเที่ยวบิน MH370 พิพากษาวิจารณ์สายการบินและรัฐบาลมาเลเซียอย่างเจ็บปวดต่อความล้มเหลวในการตอบคำถาม ขณะที่เหตุการณ์นี้กระพือทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ นานา ในนั้นรวมถึงเครื่องบินถูกยึดและนำไปลงจอดยังที่ปลอดภัยที่ไหนสักแห่ง
อย่างไรก็ตาม เหล่าผู้เชี่ยวชาญบอกว่าสมมติฐานที่เป็นไปได้มากที่สุดยังเป็นการจี้เครื่องบิน พฤติกรรมไม่ซื่อของนักรบหรือเครื่องยนต์ขัดข้อง แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานโผล่ขึ้นมาสนับสนุนทฤษฎีใดๆ