นครศรีธรรมราช- คาดซากชิ้นส่วนเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีฯ อาจเป็นชิ้นส่วนรุ่น M370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ที่ตกก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศลงพื้นที่ตรวจสอบ สื่อนอกตีข่าวเป็นไปได้สูง
จากกรณีชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณชายหาด ม.9 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้พบชิ้นส่วนปีกความยาว 2 เมตร และโลหะซึ่งมีความยาว 3 เมตร ซึ่งได้มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นชิ้นส่วนของซากเครื่องบิน ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวอาจจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินเที่ยวบิน MH370 ซึ่งสูญหายไปเมื่อเดือน มี.ค. 2557 ระหว่างการเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดชาวบ้านได้นำมาเก็บไว้ ที่ บ้านเลขที่ 145 หมู่ที่ 9 ต.ท่าพญา จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบว่า อย่างดี สีขาว ลักษณะโค้งเป็นสี่เหลี่ยม ความกว้างประมาณ 3 เมตรเศษ ยาวประมาณ 3 เมตรเศษ น้ำหนักประมาณกว่า 100 กก. ผิวด้านนอกเป็นโลหะคล้ายอะลูมินัมเคลือบสีขาวอย่างดี โดยมีตัวเลขคล้ายซีเรียลนัมเบอร์กำกับอยู่บนอะไหล่หลายจุด มีชิ้นส่วนของสายไฟฟ้าอย่างดีอยู่บางส่วน นอกจากนั้น ตัวนอตที่ยึดติดกับผิวด้านนอกยังมีตัวเลขกำกับทุกตัว ซึ่งชาวบ้านคาดว่าจมน้ำทะเลมาประมาณ 1 ปีเศษ เนื่องจากมีตัวเพรียงทะเลเกาะทั่วไปแต่ไม่มากนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากพนัง ได้เข้าตรวจสอบ และเตรียมประสานงานกับชาวบ้านผู้พบซากชิ้นส่วนเครื่องบิน เพื่อขอเคลื่อนย้ายซากนี้ไปเก็บไว้ที่ สภ.ปากพนัง เพื่อรอผู้เชี่ยวชาญจากกองทัพอากาศเข้าทำการตรวจสอบพิสูจน์อย่างชัดเจน
ขณะที่ นายปราโมทย์ เรืองดิษฐ์ กำนันตำบลท่าพญา ชาวบ้านผู้พบยืนยันว่า ขอให้ทิ้งซากชิ้นนี้ไว้กับชาวบ้านยังจุดที่พบก่อน เพื่อให้ผู้ที่ทราบข่าวเข้ามาดู และหากพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเครื่องบิน และเป็นของสายการบินใดพร้อมที่จะมอบให้ไปโดยไม่มีข้อแม้ และหากจะพิสูจน์ขอให้มาพิสูจน์ยังจุดที่พบ
อย่างไรก็ตาม ในการสืบค้นข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ จากตัวเลขซีเรียลนัมเบอร์ที่ปรากฏบนนอตในหัวข้อ Bolt Part คือ NAS6204-31 ใน gen-aircraft-hardware.com ปรากฏข้อมูลว่า เป็นนอตที่ใช้สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวที่ตรงกับรุ่นของเครื่องบินในเที่ยวบิน MH-370 จึงเพิ่มน้ำหนักของข้อมูลที่น่าเชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินเที่ยวบินนี้
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันชาวบ้านในย่านดังกล่าวทยอยเข้ามาดูชิ้นส่วนซากเครื่องบินชิ้นนี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการสืบค้นข้อมูลจากซีเรียลนัมเบอร์บริเวณนอตที่พบบนซาก ชิ้นส่วนจะระบุชัดเจนว่า ใช้สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777 อย่างชัดเจน ขณะที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ใช้เชือกกันพื้นที่ไว้รอผู้เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบ
ด้าน นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ได้รับการประสานงานจากกองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินซี 130 พร้อมด้วยนายทหารผู้เชี่ยวชาญการตรวจสอบอากาศยานอุบัติเหตุลงพื้นที่ในวันนี้ ( 25 ม.ค.)เวลา 10.00 น. เพื่อพิสูจน์ทราบซากอย่างชัดเจน โดยเฉพาะข้อมูลที่ปรากฏในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเป็นชิ้นส่วนของโบอิ้ง 777 รุ่นเดียวกับเที่ยวบิน MH-370 ขณะที่ในพื้นที่สำนักข่าวต่างประเทศได้ประสานกับผู้สื่อข่าวในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอความช่วยเหลือด้านข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง
***สื่อนอกตีข่าวคาดมาจากรุ่นM370
สื่อมาเลเซียรายงานว่า มาเลเซียจะติดต่อกับทางการไทยเรื่องชิ้นส่วนเครื่องบินต้องสงสัยที่ได้มีการค้นพบนอกพื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ของไทย ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นชิ้นส่วนจากเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH370 หรือไม่
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างหนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์ ว่า เหลียว เตียง ไหล รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของมาเลเซียกล่าวกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังคงเป็นเพียงการคาดการณ์ โดยตนเองได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนของมาเลเซียติดต่อกับกรมการบินพลเรือนของไทย เพื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้ว
นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ ยังได้เรียกร้องให้ประชาชนงดเผยแพร่ข่าวที่ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ เนื่องจากเรื่องราวเหล่านี้อาจจะส่งผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวของผู้ประสบเคราะห์
ขณะที่เอเอฟพีระบุว่า กองทัพไทยกำลังตรวจสอบว่าเศษเหล็กชิ้นหนึ่งที่เกยอยู่บนชายหาดแห่งหนึ่งนั้นมาจากเครื่องบินหรือไม่ กระตุ้นให้สื่อไทยต่างพากันคาดเดาว่ามันอาจเป็นของเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของกองทัพไทยได้เข้าตรวจสอบและถ่ายรูปพร้อมยอมรับว่ามันอาจมาจากเครื่องบิน เช่นเดียวกับตำรวจท้องถิ่นก็ระบุว่าเช่นกันว่าชิ้นส่วนนี้น่าจะมาจากเครื่องบิน
ทั้งนี้ เครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ปี 2014 ขณะบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปกรุงปักกิ่งพร้อมกับคนบนเครื่อง 239 คน
ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ชิ้นส่วนปีกเครื่องบินที่เรียกว่าแฟล็บเพอรอนความยาว 2 เมตรถูกซัดขึ้นมาบนชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะเรอูนียงในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งห่างจากภาคใต้ของประเทศไทยหลายพันกิโลเมตร.
จากกรณีชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณชายหาด ม.9 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้พบชิ้นส่วนปีกความยาว 2 เมตร และโลหะซึ่งมีความยาว 3 เมตร ซึ่งได้มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นชิ้นส่วนของซากเครื่องบิน ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวอาจจะเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินเที่ยวบิน MH370 ซึ่งสูญหายไปเมื่อเดือน มี.ค. 2557 ระหว่างการเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดชาวบ้านได้นำมาเก็บไว้ ที่ บ้านเลขที่ 145 หมู่ที่ 9 ต.ท่าพญา จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พบว่า อย่างดี สีขาว ลักษณะโค้งเป็นสี่เหลี่ยม ความกว้างประมาณ 3 เมตรเศษ ยาวประมาณ 3 เมตรเศษ น้ำหนักประมาณกว่า 100 กก. ผิวด้านนอกเป็นโลหะคล้ายอะลูมินัมเคลือบสีขาวอย่างดี โดยมีตัวเลขคล้ายซีเรียลนัมเบอร์กำกับอยู่บนอะไหล่หลายจุด มีชิ้นส่วนของสายไฟฟ้าอย่างดีอยู่บางส่วน นอกจากนั้น ตัวนอตที่ยึดติดกับผิวด้านนอกยังมีตัวเลขกำกับทุกตัว ซึ่งชาวบ้านคาดว่าจมน้ำทะเลมาประมาณ 1 ปีเศษ เนื่องจากมีตัวเพรียงทะเลเกาะทั่วไปแต่ไม่มากนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากพนัง ได้เข้าตรวจสอบ และเตรียมประสานงานกับชาวบ้านผู้พบซากชิ้นส่วนเครื่องบิน เพื่อขอเคลื่อนย้ายซากนี้ไปเก็บไว้ที่ สภ.ปากพนัง เพื่อรอผู้เชี่ยวชาญจากกองทัพอากาศเข้าทำการตรวจสอบพิสูจน์อย่างชัดเจน
ขณะที่ นายปราโมทย์ เรืองดิษฐ์ กำนันตำบลท่าพญา ชาวบ้านผู้พบยืนยันว่า ขอให้ทิ้งซากชิ้นนี้ไว้กับชาวบ้านยังจุดที่พบก่อน เพื่อให้ผู้ที่ทราบข่าวเข้ามาดู และหากพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเครื่องบิน และเป็นของสายการบินใดพร้อมที่จะมอบให้ไปโดยไม่มีข้อแม้ และหากจะพิสูจน์ขอให้มาพิสูจน์ยังจุดที่พบ
อย่างไรก็ตาม ในการสืบค้นข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ จากตัวเลขซีเรียลนัมเบอร์ที่ปรากฏบนนอตในหัวข้อ Bolt Part คือ NAS6204-31 ใน gen-aircraft-hardware.com ปรากฏข้อมูลว่า เป็นนอตที่ใช้สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวที่ตรงกับรุ่นของเครื่องบินในเที่ยวบิน MH-370 จึงเพิ่มน้ำหนักของข้อมูลที่น่าเชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินเที่ยวบินนี้
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันชาวบ้านในย่านดังกล่าวทยอยเข้ามาดูชิ้นส่วนซากเครื่องบินชิ้นนี้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการสืบค้นข้อมูลจากซีเรียลนัมเบอร์บริเวณนอตที่พบบนซาก ชิ้นส่วนจะระบุชัดเจนว่า ใช้สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง 777 อย่างชัดเจน ขณะที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้ใช้เชือกกันพื้นที่ไว้รอผู้เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบ
ด้าน นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และล่าสุด ได้รับการประสานงานจากกองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินซี 130 พร้อมด้วยนายทหารผู้เชี่ยวชาญการตรวจสอบอากาศยานอุบัติเหตุลงพื้นที่ในวันนี้ ( 25 ม.ค.)เวลา 10.00 น. เพื่อพิสูจน์ทราบซากอย่างชัดเจน โดยเฉพาะข้อมูลที่ปรากฏในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเป็นชิ้นส่วนของโบอิ้ง 777 รุ่นเดียวกับเที่ยวบิน MH-370 ขณะที่ในพื้นที่สำนักข่าวต่างประเทศได้ประสานกับผู้สื่อข่าวในจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอความช่วยเหลือด้านข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง
***สื่อนอกตีข่าวคาดมาจากรุ่นM370
สื่อมาเลเซียรายงานว่า มาเลเซียจะติดต่อกับทางการไทยเรื่องชิ้นส่วนเครื่องบินต้องสงสัยที่ได้มีการค้นพบนอกพื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ของไทย ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นชิ้นส่วนจากเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH370 หรือไม่
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างหนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์ ว่า เหลียว เตียง ไหล รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของมาเลเซียกล่าวกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าวว่า ขณะนี้ยังคงเป็นเพียงการคาดการณ์ โดยตนเองได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนของมาเลเซียติดต่อกับกรมการบินพลเรือนของไทย เพื่อตรวจสอบความถูกต้องแล้ว
นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ ยังได้เรียกร้องให้ประชาชนงดเผยแพร่ข่าวที่ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ เนื่องจากเรื่องราวเหล่านี้อาจจะส่งผลกระทบต่อสมาชิกในครอบครัวของผู้ประสบเคราะห์
ขณะที่เอเอฟพีระบุว่า กองทัพไทยกำลังตรวจสอบว่าเศษเหล็กชิ้นหนึ่งที่เกยอยู่บนชายหาดแห่งหนึ่งนั้นมาจากเครื่องบินหรือไม่ กระตุ้นให้สื่อไทยต่างพากันคาดเดาว่ามันอาจเป็นของเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินของกองทัพไทยได้เข้าตรวจสอบและถ่ายรูปพร้อมยอมรับว่ามันอาจมาจากเครื่องบิน เช่นเดียวกับตำรวจท้องถิ่นก็ระบุว่าเช่นกันว่าชิ้นส่วนนี้น่าจะมาจากเครื่องบิน
ทั้งนี้ เครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สูญหายไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคม ปี 2014 ขณะบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปกรุงปักกิ่งพร้อมกับคนบนเครื่อง 239 คน
ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ชิ้นส่วนปีกเครื่องบินที่เรียกว่าแฟล็บเพอรอนความยาว 2 เมตรถูกซัดขึ้นมาบนชายหาดแห่งหนึ่งบนเกาะเรอูนียงในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งห่างจากภาคใต้ของประเทศไทยหลายพันกิโลเมตร.
