นครศรีธรรมราช - พบซากชิ้นส่วนเครื่องบินขนาดใหญ่ในทะเลปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เผยอาจเป็นชิ้นส่วนของ MH 370 ที่หายไปกว่าปีเศษ จนท.เร่งตรวจสอบ ด้านกองทัพอากาศเตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบพรุ่งนี้
วันนี้ (23 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปราโมทย์ เรืองดิษฐ์ กำนันตำบลท่าพญา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้แจ้ง พ.ต.ต.ไพรัตน์ จิรักษา พนักงานสอบสวน สภ.ปากพนัง ว่า มีชาวบ้านได้พบซากชิ้นส่วนคล้ายเครื่องบินที่บริเวณริมหาด ม.9 ต.ท่าพญา อ.ปากพนัง จึงเดินทางเข้าทำการตรวจสอบ พบว่า ชาวบ้านได้นำซากดังกล่าวขึ้นมาไว้บริเวณบ้านเลขที่ 145 ม.9 ต.ท่าพญา อ.ปากพนังแล้ว โดยมีคนมามุงดูเป็นจำนวนมาก
หลังจากที่เข้าตรวจสอบพบว่าอย่างดี สีขาว ลักษณะโค้งเป็นสี่เหลี่ยม ความกว้างประมาณ 3 เมตรเศษ ยาวประมาณ 3 เมตรเศษ น้ำหนักประมาณกว่า 100 กก. ผิวด้านนอกเป็นโลหะคล้ายอะลูมินัมเคลือบสีขาวอย่างดี โดยมีตัวเลขคล้ายซีเรียลนัมเบอร์กำกับอยู่บนอะไหล่หลายจุด มีชิ้นส่วนของสายไฟฟ้าอย่างดีอยู่บางส่วน นอกจากนั้น ตัวนอตที่ยึดติดกับผิวด้านนอกยังมีตัวเลขกำกับทุกตัว ซึ่งชาวบ้านคาดว่าจมน้ำทะเลมาประมาณ 1 ปีเศษ เนื่องจากมีตัวเพรียงทะเลเกาะทั่วไปแต่ไม่มากนัก
นายวิไล เจริญขุน และนายสมศักดิ์ สินชู ชาวประมงในพื้นที่ได้ระบุว่า ช่วงเช้าของวันนี้ได้เตรียมตัวออกทำการประมงตามปกติเหมือนทุกวัน และได้พบเห็นซากประหลาดดังกล่าวถูกคลื่นซัดมาอยู่ที่ริมทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 30-50 เมตร ตอนแรกคิดว่าเป็นซากเรือที่ไม่ใช้แล้ว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้โทรสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน พร้อมอธิบายลักษณะของซากชิ้นส่วนดังกล่าวให้ทราบ จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นซากเครื่องบิน โดยชิ้นส่วนที่พบนี้อาจเป็นส่วนใต้จมูกของเครื่องบิน และลักษณะที่พบน่าเชื่อว่าเป็นเครื่องบินตระกูลโบอิ้ง หรือแอร์บัส ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นชิ้นส่วนของเครื่องบินจากที่ใด
แต่อย่างไรก็ตาม น้ำหนักที่ให้ต่อชิ้นส่วนผู้เชี่ยวชาญรายนี้ไม่ประสงค์ออกนามยืนยันว่า มีความเป็นได้สูงว่าจะเป็นชิ้นส่วนเครื่องบินที่สูญหายของสายการบินมาเลเซีย เนื่องจากบริเวณอ่าวไทยตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีอากาศยานโดยสารประสบอุบัติเหตุลงในทะเลเลย และชิ้นส่วนนี้อยู่ในสภาพใหม่
ขณะที่ชาวบ้านระบุว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ในย่านนี้คลื่นลมได้ซัดอย่างรุนแรง อาจเป็นเหตุหนึ่งที่ชิ้นส่วนนี้ถูกพัดจากทะเลลึกจนมาถึงฝั่ง และต่างเชื่อว่าอาจจะเป็นซากเครื่องบิน MH 370 ของมาเลเซียที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยเมื่อ 1 ปีเศษ ซึ่งตรงกับที่ชาวประมงระบุว่า กว่าตัวเพรียงจะเกาะซากนี้ต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีเศษเช่นกัน
ต่อมา นายธัญญพัฒน์ พัฑฒิคงพันธุ์ นายอำเภอปากพนัง ได้ประสานกับทหาร และผู้ชำนาญเกี่ยวกับการบิน โดยบอกให้ชาวบ้านเก็บซากชิ้นส่วนนี้ไว้ก่อนเพื่อเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจะได้เข้าทำการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่าเป็นเครื่องบินจากไหน และทำการตรวจสอบว่าถ้าเป็นซากเครื่องบินตกลงสู่ทะเลเมื่อไร รวมทั้งเป็นซากชิ้นส่วนของเครื่องบิน MH 370 ของประเทศมาเลเซียหรือไม่
และในช่วงเย็นวันเดียวกัน นายปราโมทย์ เรืองดิษฐ์ กำนันตำบลท่าพญา ได้ระบุว่า ล่าสุดทาง พล.ต.ธีรณฉัฎฐ์ จินดาเงิน ผบ.มทบ.41 กองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ส่งนายทหารเดินทางมาตรวจสอบชิ้นส่วนดังกล่าว ซึ่งทหารยืนยันว่า เป็นซากเครื่องบินแน่นอน แต่ไม่ทราบสังกัด และสัญชาติ
นอกจากนั้น ยังมีการบันทึกภาพอย่างละเอียดพร้อมกับส่งไปยังกองทัพอากาศแล้ว และได้รับการยืนยันว่า เป็นชิ้นส่วนของสายการบินต่างประเทศแน่นอน แต่ไม่ยืนยันว่าประเทศไหน ซึ่งทางกองทัพอากาศจะส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เพื่อเข้าทำการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ในขณะที่ชาวบ้านที่พบซากชิ้นส่วนดังกล่าวได้เก็บไว้เป็นอย่างดี