เอพี - ปฏิบัติการตามหาเที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลนส์ที่หายสาบสูญ กำลังโยกย้ายเข้าสู่บริเวณพื้นที่ห่างไกลของมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งนักบินชาวอังกฤษผู้หนึ่งได้คำนวณเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยอิงอาศัยความเชื่อที่ว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำนี้ถูกบังคับควบคุมให้ลงสู่ผิวน้ำในสภาพที่ยังค่อนข้างครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมด้วยผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน ทั้งนี้จากการแถลงของเจ้าหน้าที่หลายรายในวันนี้ (23 พ.ย.)
บริเวณพื้นที่มหาสมุทรลึกไกลโพ้น ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของออสเตรเลีย ซึ่ง กัปตัน ไซมอน ฮาร์ดี้ วินิจฉัยว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะเป็นสุสานของเที่ยวบิน MH370 นั้น จะถูกค้นหาในช่วงเดือนธันวาคมนี้ นี่เป็นการแถลงของสำนักงานความปลอดภัยการขนส่งออสเตรเลีย ซึ่งกำลังทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานการค้นหาในนามของมาเลเซีย
แต่ทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของออสเตรเลีย ไม่ได้กำลังปฏิบัติการตามคำชี้แนะในบทวิเคราะห์ของ ฮาร์ดี้ ซึ่งเป็นนักบินผู้มีประสบการณ์บินโบอิ้ง 777 มายาวนาน โดยที่ มาร์ติน โดลัน ข้าหลวงใหญ่ของสำนักงานแห่งนี้บอกว่า เหตุที่การค้นหากำลังขยับไกลออกไปทางใต้ แต่ยังอยู่ภายในอาณาบริเวณ 120,000 ตารางกิโลเมตรซึ่งถือเป็นพื้นที่ลำดับแรกที่ต้องค้นหานั้น ก็เนื่องจากฤดูใบไม้ผลิของซีกโลกใต้ในขณะนี้ ทำให้สภาพอากาศที่เลวร้ายยิ่งในทางตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย มีความปลอดโปร่งขึ้นมามาก
“เราทราบดีว่าพวกเราเข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ซึ่ง กัปตันฮาร์ดี้ ระบุ แต่เหตุผลการที่เราเข้าไปตรงนั้น ก็เพราะนั่นเป็นพื้นที่ถัดไปในลำดับการค้นหาของพวกเรา โดยเรากำลังขยับลงใต้มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากอากาศกำลังดีขึ้น” โดลันอธิบาย
ทฤษฎีของฮาร์ดี้เกี่ยวกับบริเวณที่เที่ยวบิน MH370 ตก หลังจากบินออกนอกเส้นทางอย่างลึกลับ ขณะเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย ไปยังกรุงปักกิ่ง, จีน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014 ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้เขาใช้การวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์และเครื่องอุปกรณ์จำลองเที่ยวบิน ในการวางเส้นทางที่เขาเชื่อว่าเครื่องบินโดยสารลำนี้ใช้เมื่อตอนที่มันหายสูญไป ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในปริศนาชวนงงงวยที่สุดของวงการบินทั่งโลก
“ผมมีความเชื่อมั่นพอสมควรว่าซากเครื่องบินจะถูกค้นพบภายในระยะเวลา 4 ถึง 8 สัปดาห์ข้างหน้านี้” ฮาร์ดี้ บอกกับหนังสือพิมพ์ ดิ ออสเตรเลียน
พวกผู้เชี่ยวชาญที่กำลังชี้นำการค้นหาคราวนี้ได้พูดคุยหารือเรื่องทฤษฎีของเขากับตัวฮาร์ดี้ด้วย แต่สำนักข่าวเอพีไม่สามารถติดต่อกับฮาร์ดี้ในวันนี้เพื่อขอให้ยืนยันเรื่องนี้
แต่ในคำแถลงของสำนักงานความปลอดภัยการขนส่งออสเตรเลีย บอกว่า “มีทฤษฎีเป็นจำนวนมากทั้งจากสมาชิกของสาธารณชน และจากผู้เชี่ยวชาญอิสระหลายหลาก และทั้งหมดล้วนถูกนำมาขบคิดพิจารณา” รวมทั้งกล่าวถึงการวิเคราะห์ของฮาร์ดี้ว่า น่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ดี พวกเจ้าหน้าที่ค้นหายังไม่ยอมรับเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในบทสรุปของฮาร์ดี้ ได้แก่เรื่องที่ว่าใครก็ตามที่กำลังบินเครื่องบินลำนั้นอยู่ได้บังคับครื่องให้ลงจอดในทะเลซึ่งทำให้มันจมลงใต้น้ำในสภาพที่ยังค่อนข้างครบถ้วนสมบูรณ์
ทั้งนี้ จนถึงเวลานี้ซากของเที่ยวบิน MH370 ที่ถูกค้นพบและได้รับยืนยันแล้วมีเพียงชิ้นเดียว นั่นคือ ชิ้นส่วนปีกเครื่องบิน ซึ่งถูกซัดเกยหาดของเกาะเรอูนียง ซึ่งเป็นเกาะห่างไกลในมหาสมุทรอินเดียเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
โดลันกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่รับผิดชอบยังคงเชื่อว่า สัญญาณดาวเทียมครั้งสุดท้ายที่ส่งจากเครื่องยนต์ของเครื่องบินโดยสารลำนี้ บ่งชี้ให้เห็นว่า MH 370 น้ำมันหมด ซึ่งหมายความว่าเครื่องบินจะต้องตกลงไปในมหาสมุทรแบบควบคุมไม่ได้ และแตกออกเป็นเสี่งๆ
ออสเตรเลีย กับ มาเลเซีย เป็นผู้ที่แบ่งกันออกค่าใช้จ่ายในการค้นหาเที่ยวบิน MH 370 ในอาณาบริเวณใต้สมุทรอันกว้างขวาง ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยอิงอาศัยการวิเคราะห์สัญญาณที่เที่ยวบินนี้ติดต่อกับดาวเทียมเป็นช่วงๆ ครอบคลุมเวลากว่า 6 ชั่วโมง หลังจากที่มันบินออกนอกเส้นทาง การปฏิบัติการค้นหาซึ่งกำลังกระทำอยู่ในจุดที่ห่างจากชายฝั่งออสเตรเลียกว่า 1,800 กิโลเมตร ได้ค้นหาครอบคลุมพื้นที่ราว 70,000 ตารางกิโลเมตรแล้ว
นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ของจีน ได้ให้คำมั่นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ปักกิ่งจะออกเงิน 14.5 ล้านดอลลาร์ ช่วยสมทบเงินทุนสำหรับการค้นหา ทั้งนี้ภัยพิบัติคราวนี้ผู้ที่สูญหายไปเป็นคนงานมากที่สุด คือ 153 คน