บล.แอพเพิล เวลธ์ มองแนวโน้ม SET เดือน ก.พ.59 ฟื้น ทดสอบ 1,350 จุด รับอานิสงส์ค่าเงินหยวนผันผวนน้อยลง ราคาน้ำมันตลาดโลกสามารถยืนเหนือ 30 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เงินบาทแข็งค่าขึ้น แนะเก็บหุ้นจ่ายปันผลสูงกว่า 4% และราคาหุ้นยังมี Upside มากกว่า 15% ชู ADVANC-AP-EGCO-KTC-SCB-SYNTEC-WHA แจ่ม
นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศการลงทุนตลาดหุ้นไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ดัชนีฯ เริ่มฟื้นในลักษณะ Sideway Up และมีการยกจุดต่ำสุดสูง (Higher Low) ซึ่งเป็น Pattern บวกทางโครงสร้างดัชนี ส่วนสัญญาณ MACD ในระยะกลางเริ่มส่งสัญญาณการกลับตัว ดังนั้น ดัชนี SET ระยะสัปดาห์หากยืนได้บริเวณแนวรับ 1,260-1,270 จุด ทิศทางดัชนีน่าจะมีแรงโมเมนตัมปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,350 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านทางโครงสร้าง และเส้น Moving Average 25 Week
“ภาวะการลงทุนในช่วงปลายเดือน ม.ค.59 ที่ผ่านมา เริ่มมีปัจจัยบวกเข้าหนุนตลาดทุน เช่น ค่าเงินหยวนจีนผันผวนน้อยลง ราคาน้ำมันตลาดโลกสามารถยืนเหนือ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล BOJ ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ และเฟดอาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย สำหรับปัจจัยในประเทศที่เริ่มส่งสัญญาณบวก เช่น ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ต่างชาติซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้นสูงถึง 4.1 หมื่นล้านบาท และบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่เริ่มประกาศจ่ายเงินปันผล เช่น SCC, PTTEP” นายอภิชัย กล่าว
นายอภิชัย กล่าวด้วยว่า จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี ดัชนี SET ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงการจ่ายปันผลของ บมจ. ส่งผลให้ผลตอบแทนของดัชนี SET เฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 4.80% โดยช่วง 10 ปีหลัง มีเพียง 2 ปีที่ผลตอบแทนติดลบ คือ ช่วงปี 2008 ที่เริ่มเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และปี 2015 เงินทุนไหลออกจากเอเชีย จากสถานการณ์ปัจจุบันประเมินความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาพมี 2 ประเด็นหลัก คือ ภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอ และวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันตกต่ำ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยมีประเมินมีความเสี่ยงน้อยที่เศรษฐกิจจีนจะเกิด Hard Landing ส่วนทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกนั้นยังอยู่ระหว่างการหาจุดสมดุล แต่หากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ก็มีโอกาสที่กลุ่ม OPEC และ Non OPEC จะยังหารือเพื่อลดกำลังการผลิตลง ดังนั้น จึงแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมในหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงกว่า 4% และราคาหุ้นยังมี Upside มากกว่า 15% เช่น ADVANC, AP, EGCO, KTC, SCB, SYNTEC, WHA และแนะนำซื้อในหุ้นที่มีโมเมนตัมบวกทางเทคนิค เช่น AIT, BH, ITD, TPIPL, MTLS และ TK
นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศการลงทุนตลาดหุ้นไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ดัชนีฯ เริ่มฟื้นในลักษณะ Sideway Up และมีการยกจุดต่ำสุดสูง (Higher Low) ซึ่งเป็น Pattern บวกทางโครงสร้างดัชนี ส่วนสัญญาณ MACD ในระยะกลางเริ่มส่งสัญญาณการกลับตัว ดังนั้น ดัชนี SET ระยะสัปดาห์หากยืนได้บริเวณแนวรับ 1,260-1,270 จุด ทิศทางดัชนีน่าจะมีแรงโมเมนตัมปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,350 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านทางโครงสร้าง และเส้น Moving Average 25 Week
“ภาวะการลงทุนในช่วงปลายเดือน ม.ค.59 ที่ผ่านมา เริ่มมีปัจจัยบวกเข้าหนุนตลาดทุน เช่น ค่าเงินหยวนจีนผันผวนน้อยลง ราคาน้ำมันตลาดโลกสามารถยืนเหนือ 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล BOJ ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ และเฟดอาจจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย สำหรับปัจจัยในประเทศที่เริ่มส่งสัญญาณบวก เช่น ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ต่างชาติซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้นสูงถึง 4.1 หมื่นล้านบาท และบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่เริ่มประกาศจ่ายเงินปันผล เช่น SCC, PTTEP” นายอภิชัย กล่าว
นายอภิชัย กล่าวด้วยว่า จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี ดัชนี SET ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงการจ่ายปันผลของ บมจ. ส่งผลให้ผลตอบแทนของดัชนี SET เฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 4.80% โดยช่วง 10 ปีหลัง มีเพียง 2 ปีที่ผลตอบแทนติดลบ คือ ช่วงปี 2008 ที่เริ่มเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และปี 2015 เงินทุนไหลออกจากเอเชีย จากสถานการณ์ปัจจุบันประเมินความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาพมี 2 ประเด็นหลัก คือ ภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอ และวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันตกต่ำ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยมีประเมินมีความเสี่ยงน้อยที่เศรษฐกิจจีนจะเกิด Hard Landing ส่วนทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกนั้นยังอยู่ระหว่างการหาจุดสมดุล แต่หากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ก็มีโอกาสที่กลุ่ม OPEC และ Non OPEC จะยังหารือเพื่อลดกำลังการผลิตลง ดังนั้น จึงแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมในหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูงกว่า 4% และราคาหุ้นยังมี Upside มากกว่า 15% เช่น ADVANC, AP, EGCO, KTC, SCB, SYNTEC, WHA และแนะนำซื้อในหุ้นที่มีโมเมนตัมบวกทางเทคนิค เช่น AIT, BH, ITD, TPIPL, MTLS และ TK