xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิดที่ไม่มีเสถียรภาพ ส่งผลกระทบกำไร บจ. และนักลงทุนต้องติดหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.บัวหลวง ให้เป้า SET Index ปีนี้ 1,440 จุด ยอมรับปัจจุบันตลาดขาดความมั่นใจ เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา กำไรของ บจ.ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อันเกิดจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญไม่มีเสถียรภาพ ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากติดหุ้น แนะลงทุน 3 กลุ่มหลัก

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง (BLS) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 59 จะอยู่ที่ 1,440 จุด โดยกำไรบริษัทจดทะเบียน EPS Growth ปีนี้จะอยู่ที่ 93 บาท/หุ้น และมีเงินปันผลที่ระดับ 3.6%

ทั้งนี้ BLS คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) ในปีนี้น่าจะฟื้นตัวขึ้นมาที่ 3.2-3.4% โดยได้รับปัจจัยบวกจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ พร้อมกันนี้ คาดว่าการท่องเที่ยวจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การส่งออกจะฟื้นขึ้นมาเติบโตได้ราว 3% จากปีก่อนที่ติดลบไปถึง 5% ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้การบริโภค การลงทุนของภาคเอกชนค่อยๆ กลับมาดีขึ้น

โดยตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังมีความน่าสนใจ หากตัวเลขผลตอบแทนเป็นไปตามที่ BLS ประเมินไว้ แต่ปัจจุบันตลาดขาดความมั่นใจ เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา กำไรของบริษัทจดทะเบียน บจ.ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มติดหุ้น

ปัจจุบัน ต้องติดตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นจะช่วยให้ความมั่นใจกลับมา และเป็นสิ่งที่ทำให้เศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง ซึ่งหลังจากที่แนวโน้มของเศรษฐกิจทั่วโลกดีขึ้น เชื่อว่าเงินทุนต่างชาติจะเริ่มไหลกลับเข้ามาในประเทศไทย และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ก่อน เนื่องจากต่างชาติให้ความสนใจ และให้ผลตอบแทนที่ดี

สำหรับปัจจัยที่ยังต้องติดตามในปีนี้ คือ เศรษฐกิจของจีน ภาวะการนำเข้า-ส่งออกของประเทศ ราคาน้ำมันที่จะต้องผ่านต่ำสุดไปได้ และกลับมามีเสถียรภาพ โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยทั้งปีนี้จะอยู่ที่ 38 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐน (เฟด) คาดว่าปีนี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือน ก.ค.59 เป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่ามีความเข้มแข็งหรือไม่

“เราคาดว่ากำไรของ บจ.อาจจะถูกปรับลดประมาณการลงต่อเนื่อง หลังจากที่เราเห็นการปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้นมายาวนานถึง 10 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากสินค้าโภคภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นราคาทองคำ น้ำมัน ถ่านหิน และเหล็ก ยังไม่มีเสถียรภาพ และปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงราคาสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยาง น้ำตาล และมันสำปะหลัง ที่ราคายังอยู่ในระดับต่ำ”

ทั้งนี้ หากมีการปรับลดประมาณการกำไรของบริษัทจดทะเบียนลงอีกจะส่งผลให้ดัชนี ณ สิ้นปีไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ สำหรับการลงทุนในปีนี้แนะนำให้เข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มประกัน ได้แก่ BLA กลุ่มธนาคารพาณิชย์ BBL SCB และกลุ่มค้าปลีก CPN เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น