เค.อี.แลนด์ เปิดตัว “คริสตัล วีรันด้า” ชอปปิ้งมอลล์ระดับลักชัวรี่เฟสใหม่ มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท พื้นที่ 25,000 ตร.ม. ยอดจองเต็มพื้นที่ พร้อมทุ่ม 10 ล้าน จัดงานแกรนด์โอเพ่นนิ่ง ตั้งเป้ายอดขายทั้งศูนย์ 3,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2559
นายกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดให้บริการ “คริสตัล วีรันด้า” มูลค่าโครงการกว่า 2,000 ล้านบาท โดยใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท พัฒนาเป็นชอปปิ้งมอลล์ไฮลักชัวรี่ 4 ชั้น ซึ่งเป็นเฟสต่อขยายจากโครงการศูนย์การค้า เดอะ คริสตัล เฟส 1 และ 2 มุ่งจับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่มีรายได้ระดับบีบวกขึ้นไป โดยจะเปิดให้บริการในวันที่ 29 มกราคม 2559 คาดว่าจะมีลูกค้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่าวันละ 10,000 ราย และมียอดขายทั้งปี 3,000 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าโครงการนี้จะคืนทุนภายใน 10 ปี
“จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อกับตลาดระดับไฮเอนด์ เห็นได้จากการพัฒนาโครงการเดอะคริสตัลเฟสแรกที่มีเงินสะพัดกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี ส่วนศูนย์การค้าซีดีซีนั้นมีเงินสะพัด 8,000-10,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งชอปปิ้งมอลล์ที่มุ่งจับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะระดับบีบวกถึงไฮเอนด์นั้นยังไปได้ดีเนื่องจากมีแนวคิดในการพัฒนาศูนย์ที่แตกต่างโดยใช้งานออกแบบระดับโลก และมีบริการเสมือนโรงแรมระดับ 5 ดาว และมีแบรนด์สินค้าชั้นนำกว่า 200 แบรนด์ ไม่ได้มีคู่แข่งโดยตรงแม้ว่าจะมีการเปิดศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลอีสท์วิลล์ก็ตาม” นายกวีพันธ์ กล่าว
ปัจจุบัน เดอะคริสตัลเอกมัย-รามอินทรา มีพื้นที่ก่อสร้างรวมกว่า 1.2 แสนตารางเมตร โดยแบ่งเป็นพื้นที่ขาย 5.5 หมื่นตารางเมตร โดยในเฟสใหม่คริสตัลวีรันด้า มีพื้นที่ขาย 2.5 หมื่นตารางเมตร ซึ่งบริษัทยังมีที่ดินในย่านดังกล่าวอีกกว่า 35 ไร่ ไม่รวมสนามฟุตบอลอีก 6 ไร่ โดยในส่วนของคริสตัล วีรันด้า มีพื้นที่ขายกว่า 25,00 ตรารางเมตร จากพื้นที่ทั้งโครงการ 120,000 ตร.ม. รวม 3 เฟส มีกว่า 400 ร้านค้า ครบทุกด้าน เช่น โรงภาพยนตร์เอสเอฟเอ็กซ์ มูลค่าลงทุน 200 ล้านบาท ฟิตเนส เฟิร์ส มูลค่าลงทุน 72 ล้านบาท ครัสตัล บูทีค สโตร์ มูลค่าลงทุน 200 ล้านบาท รวมถึงร้านอาหาร และแบรนด์ดังต่างๆ และปัจจุบันมีร้านค้าจองเต็มพื้นที่ มีพื้นที่จอดรถซูเปอร์คาร์โดยเฉพาะให้บริการด้วย
“ในย่านนี้มีห้างหลายแห่ง แต่เป็นคนละกลุ่มเป้าหมายกัน ซึ่งคริสตัลพาร์ค และคริสตัลวิรันด้านี้ จับกลุ่มตลาดบนเป็นหลัก ที่มีกำลังการใช้จ่ายจริง และใช้จ่ายสูง ไม่ใช่มาเดินเล่นเฉยๆ โดยบริเวณรอบๆ นี้ ล้วนเป็นหมู่บ้านแพง ราคาสูง และปีนี้บริษัทได้ตั้งงบการตลาดไว้กว่า 50 ล้านบาท สำหรับจัดกิจกรรมการตลาดไฮไลต์ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย”
นายกวีพันธ์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังมีที่ดินเพื่อรอการพัฒนาในบริเวณถนนเอกมัย-รามอินทรา ประมาณ 300 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า โดยต้องรอความชัดเจนจากโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเทา ที่จะต้องมีความขัดเจนก่อน หลังจากผังเมืองบริเวณที่ตั้งศูนย์ค้าซีดีซีในปัจจุบันได้เปลี่ยนประโยชน์การใช้ที่ดินเป็นสีแดง หรือเชิงพาณิชยกรรมแล้วสามารถก่อสร้างเป็นอาคารสูงได้
สำหรับราคาประเมินที่ดินย่านเอกมัย-รามอินทรา ในช่วงเริ่มการก่อสร้างโครงการเดอะคริสตัลเฟสแรกอยู่ที่ 4-5 หมื่นบาทต่อตารางเมตร แต่ปัจจุบันราคาประเมินที่ดินริมถนนขยับขึ้นถึง 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร