xs
xsm
sm
md
lg

ภาวะตลาดหุ้นไทย ปิดร่วง 24.61 จุด ตามตลาดภูมิภาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ปิดที่ 1,263.41 จุด ลดลง 24.61 จุด (-1.91%) มูลค่าการซื้อขาย 30,766.06 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานตามตลาดภูมิภาค หลังตัวเลขเศรษฐกิจของจีนต่ำกว่าคาด และกังวลมาตรการของจีนที่ห้ามผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้น 6 เดือนจะสิ้นสุดสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ยังวิตกการไถ่ถอนหน่วยลงทุนของ LTF แต่คาดกระทบไม่มาก พรุ่งนี้ลุ้นดัชนีฯ ฟื้นตัวรับแรงหนุนราคาน้ำมันขึ้น ความเสี่ยงจากการขายของกองทุน LTF ลดลง ให้แนวต้าน 1,286-1,294 แนวรับ 1,250 จุด

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บ.กสิกรไทย ระบุ เปิดเทรดวันแรกของปี 59 SET Index ปรับตัวลดลง 1.91% โดยปรับร่วงลงเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับลดลง และหลายๆ กลุ่มปรับร่วงกันเกินกว่า 1%

“การปรับร่วงกันเกือบทุกกลุ่มในตลาด
อาจเกิดจากแรงขายของสถาบันในประเทศที่ทำการ Redeem เพื่อเตรียมเงินสดรองรับคำสั่งขาย LTF ที่จะมีเข้ามาในช่วงต้นปี โดยกลุ่มสื่อสารซึ่งวันนี้ดิ่งลง 4.3% เป็นเป้าหมายหลักในการเทขายของสถาบัน” นายประกิต กล่าว

โดยฝ่ายวิจัยประเมินในเบื้องต้น ปริมาณคำสั่งขาย LTF ไม่น่าจะเกินระดับ 8 พันล้านบาท

ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกร กล่าวถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคพร้อมใจกันปรับตัวลง เช่น นิกเกอิ ปิดตลาดติดลบไป 3.06% ฮั่งเสง ล่าสุดร่วง 2.8% และที่หนักที่สุดคือ เซี่ยงไฮ้ ลงถึง 6.85% จนตลาดหุ้นจีนต้องใช้ circuit breaker เพื่อลดความร้อนแรงของแรงขายลงชั่วคราว นอกจากจะมีแรงกดดันจาก PMI ภาคการผลิตที่ออกมาย่ำแย่แล้ว ยังมีประเด็นเรื่องความกังวลต่อการสิ้นสุดของมาตรการห้ามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนขายหุ้นออกในวันที่ 8 ม.ค.2559 นี้

อย่างไรก็ตาม นายประกิต คาดว่า แรงขายหลักๆ ได้ขายไปเยอะแล้ว วันนี้จึงน่าจะเริ่มเห็นแรงซื้อคืน ซึ่งน่าจะทำให้ SET Index ย้อนกลับมาทดสอบ 1,278 จุดอีกครั้ง

ด้าน นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ ระบุ โดยภาพรวมนักลงทุนมีความกังวลต่อ 1.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 2.การเติบโตของจีน 3.การที่ธนาคารสหรัฐฯ (Fed) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และ 4.ราคาน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปี 2558 เป็นตัวฉุดตลาดลงมา แต่เมื่อมีข่าวความขัดแย้งในตะวันออกกลาง จึงทำให้นักวิเคราะห์ต้องมาประเมินกันใหม่ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกมากแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเดิมๆ ยังคงมีอยู่

ด้านปัจจัยในประเทศ การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ ดังนั้น ปี 2559 จะเป็นปีที่น่าสนใจอีกปีหนึ่ง และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,584.91 ล้านบาท ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 9.00 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,549.60 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,420.73 ล้านบาท ปิดที่ 238.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,183.85 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,110.16 ล้านบาท ปิดที่ 3.06 บาท ลดลง 0.18 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น