ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 4 มกราคม 2559 ปิดช่วงเช้าที่ 1,272.45 จุด ลดลง 15.57 จุดเปลี่ยนแปลง -1.21% มูลค่าการซื้อขาย 14,784.81 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ซีไอเอ็มบี ระบุสาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงกว่า 10 จุดในช่วงเปิดตลาดเช้า เป็นการปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ที่ตอบรับปัจจัยลบจากการเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลกดดันตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดหุ้นในประเทศที่เกี่ยวข้องต่อประเทศจีน อย่างเช่น ตลาดหุ้นในฮ่องกง และไต้หวัน ที่มีการปรับตัวลดลงไป 2% ในเช้าวันนี้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญต่อแรงขายของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่เริ่มทยอยออกมาตั้งแต่วันเปิดทำการซื้อขายวันแรกของปีนี้ โดยส่วนใหญ่แรงขายของกองทุน LTF ที่จะออกมานั้นส่วนใหญ่จะเป็นแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้กดดันตลาดหุ้นไทยอีกด้วย
ด้าน นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ ระบุ โดยภาพรวมนักลงทุนมีความกังวลต่อ 1.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 2.การเติบโตของจีน 3.การที่ธนาคารสหรัฐฯ (Fed) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และ 4.ราคาน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปี 2558 เป็นตัวฉุดตลาดลงมา แต่เมื่อมีข่าวความขัดแย้งในตะวันออกกลาง จึงทำให้นักวิเคราะห์ต้องมาประเมินกันใหม่ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกมากแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเดิมๆ ยังคงมีอยู่
ด้านปัจจัยในประเทศ การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ ดังนั้น ปี 2559 จะเป็นปีที่น่าสนใจอีกปีหนึ่ง และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป