บล.เอเชีย เวลท์ คาดปัญหาซาอุฯ เป็นปัจจัยใหม่ส่งผลต่อ ศก.โลก และแนวโน้มหุ้นไทยปี 59 พร้อมเชื่อว่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ นอกจากจะมีความกังวลที่มีมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การเติบโตของจีน การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีแนวโน้มว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปี 2558 เป็นตัวฉุดตลาดหุ้นลงมา แต่ล่าสุด เมื่อมีข่าวความขัดแย้งในตะวันออกกลางจากกรณีปัญหาซาอุดีอาระเบีย จึงทำให้นักวิเคราะห์ต้องมาประเมินกันใหม่ว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกมากแค่ไหน ขณะที่ปัจจัยเดิมๆ ยังคงมีอยู่
ด้านปัจจัยในประเทศ การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐจะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ ดังนั้น ปี 2559 จะเป็นปีที่น่าสนใจอีกปีหนึ่ง และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
“สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้คาดว่าราคาน้ำมันจะขยับตัวขึ้น อาจมีการเก็งกำไรหุ้นพลังงานในช่วงสั้นๆ แต่นักลงทุนควรระมัดระวัง โดยแนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐเป็นหลัก” นายวรุตน์ กล่าว
นายวรุตม์ กล่าวว่า ข่าวการที่ประเทศซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตผู้ก่อการร้าย 47 คน โดยเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องต่อขบวนการอัลกออิดะฮ์ จำนวน 43 คน ส่วนอีก 4 คน เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะฮ์ โดย 1 ในนั้นเป็นผู้นำนิกายชีอะฮ์ ทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อตะวันออกกลาง โดยเฉพาะผู้นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะฮ์ในประเทศอิหร่าน มีการประท้วงรุนแรง และมีการบุกเข้าไปในสถานทูตซาอุดีอาระเบีย ที่อิหร่าน เป็นผลให้ซาอุดีอาระเบีย ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ซึ่งความขัดแย้งนี้มีแนวโน้มทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น และจะเป็นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้
สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ คือ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างชั้นนำของไทย ที่ในปี 2559 นี้จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากโครงการลงทุนภาครัฐ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2558 ออกมาแข็งแกร่ง โดยบริษัทมีกำไรสุทธิต่อหุ้นถึงเป้าหมายกำไรต่อหุ้นทั้งปี 2558 ของ consensus ที่ 0.76 บาท หรือเติบโต 29% แล้ว ปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ P/E 28.9 เท่า หรือ PEG อยู่ที่ 1 เท่า จาก Bloomberg consensus 24.00 บาท
ทั้งนี้ คาดว่าการเพิ่มขึ้นของโครงการรัฐ และการเร่งตัวของโครงการต่างๆ ในไตรมาส 4/58 จะช่วยรักษาเติบโตที่แข็งแกร่งต่อเนื่องไปในไตรมาส 1/59 ซึ่งหมายถึง P/E น่าจะซื้อขายในระดับที่สูงขึ้นอีกจากราคาที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
ล่าสุด ข่าวการประมูลรถไฟทางคู่ 2 สัญญา และการที่ญี่ปุ่นได้เข้าถือหุ้นหนึ่งในสามของโครงการทวาย ทำให้หุ้นในกลุ่มรับเหมาทวีความน่าสนใจขึ้น โดยมีโอกาสที่บริษัทจะได้รับการว่าจ้างงานก่อสร้างที่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ UNIQ ยังมีแผนโรดโชว์ในเยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ ในไตรมาส 1/59 อีกด้วย โดยปัจจุบัน UNIQ มีมูลค่าโครงการในมือแล้วประมาณ 30,000 ล้านบาท และคาดว่าจะประมูลได้เพิ่มเติมอีกปีละ 30,000-40,000 ล้านบาท
สำหรับทางเทคนิค ราคาของ UNIQ ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในสัปดาห์สุดท้ายของปี 58 ส่งผลทำให้ Price Pattern ของ UNIQ ได้กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) รอบใหม่ จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly และ Monthly Buy Signal ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นการทำ New High ครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High รอบนี้อยู่ที่ 25.50 บาท