เอพี ชี้ศักยภาพที่ดินแวดล้อมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-บางซื่อ เป็นโอกาสทองของตลาดคอนโดฯ เกรดพรีเมียม ภาคอสังหาฯ เตรียมรับอานิสงส์จากการพัฒนาของทำเลปิ่นเกล้า-จรัญฯ ทั้งจากโครงข่ายระบบการคมนาคมที่พร้อมเดินรถครบลูปในปี 62 และการแผนการพัฒนาศูนย์การค้าจากภาคเอกชน ล้วนสะท้อนภาพการขยายตัวของเมือง และอำนาจในการใช้จ่ายของคนในย่านนี้ ขณะที่คอนโดฯ ในตลาดกว่า 70% ล้วนตอบโจทย์ตลาดกลางล่าง สวนภาพกำลังซื้อ และดีมานด์ของลูกค้าเกรดพรีเมียมที่มองหาคอนโดมิเนียมที่มีสเปซ และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์เฉพาะตัว มีความแตกต่างที่เหนือกว่า
นายวิทการ จันทวิมล (Mr.Vittakarn Chandavimol; Chief Marketing Officer Strategic Marketing, AP (Thailand) Public Company Limited) รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความคืบหน้าของการก่อสร้างโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางซื่อ) ที่คาดว่าจะเปิดเดินรถครบทั้งสายในปี 2562 ส่งผลให้ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลดังกล่าวมีความคึกคักอย่างเห็นได้ชัด จากการสำรวจตลาดคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-บางซื่อ) ณ เดือน พ.ย.2558 พบว่า มีคอนโดฯ เปิดตัวใหม่รวมทั้งสิ้น 6 โครงการ หรือ 4,226 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 9,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ากว่า 345% โดยคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวส่วนใหญ่กว่า 70% ล้วนเป็นสินค้าที่จับตลาดระดับกลางถึงกลางล่าง ราคาขาย 2-3 ล้านบาท
ขณะที่ศักยภาพของทำเลโดยเฉพาะที่อยู่แวดล้อมสถานีบางยี่ขัน (ใกล้สี่แยกบรมราชชนนี) ถือว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญที่สุดของทำเลปิ่นเกล้า-จรัญฯ และมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง ทั้งแผนการพัฒนาโครงข่ายระบบการคมนาคม และการพัฒนาศูนย์การค้าต่างๆ จากภาคเอกชน ถือเป็นปัจจัยที่สะท้อนได้เห็นถึงอนาคตในการขยายตัวของเมือง (Urbanization) เข้าสู่ปิ่นเกล้า-จรัญฯ อีกทั้งยังสะท้อนได้ถึงความสามารถด้านการใช้จ่าย ตลอดจนกำลังซื้อของคนในย่านนี้ที่มีอยู่จำนวนมาก ขณะที่ซัปพลายตลาดคอนโดมิเนียมที่พร้อมตอบโจทย์ตลาดระดับกลางบน หรือกลุ่ม B+ ยังไม่มี ซึ่งถือเป็นช่องว่างทางการตลาดที่น่าสนใจสำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียมในโหมดราคาพรีเมียม ดังนั้น ทางเอพีจึงได้เดินหน้าเปิดตัว LIFE ปิ่นเกล้า จำนวน 803 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 3,100 ล้านบาท เพื่อรองรับดีมานด์ที่เฝ้ารอสินค้าเกรดพรีเมียมในทำเลนี้อยู่
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลปิ่นเกล้า-จรัญฯ เติบโตโดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประกาศแรก คือ ความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องของการก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมหลัก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเส้นการเดินรถไฟฟ้าที่ดีที่สุด เนื่องจากมีการวางระบบเส้นทางวิ่งเชื่อมต่อการเดินทางเข้า-ออกกรุงเทพฯ ชั้นในเป็นวงกลม สามารถเชื่อมต่อได้สะดวกทุกเส้นทาง โดยคาดว่าจะเปิดเดินรถทั้งสายในปี 2562 และโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ที่เชื่อมฝั่งใจกลางเมืองกรุงเทพฯ และฝั่งธนบุรีเข้าด้วยกันโดยที่มีเส้นทางขึ้น-ลงมายังทำเลปิ่นเกล้า-จรัญฯ ถึง 3 ด่าน ส่งผลให้ “ราคาที่ดิน” ในทำเลนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ดินติดแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่มีราคาประเมินสูงที่สุดคือ ที่ดินบริเวณสถานีบางยี่ขัน โดยมีราคาประเมิน ณ ปัจจุบัน ประมาณ 210,000 บาท/ตารางวา เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 5% เหตุเพราะบริเวณสถานีบางยี่ขัน (ใกล้สี่แยกบรมราชชนนี) เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางที่มีความเจริญที่สุดของย่านปิ่นเกล้า ชี้ให้เห็นศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่พักอาศัยในทำเลนี้ที่นับวันราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประการที่สอง ปัจจัยด้านพาณิชยกรรมที่มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องในทำเลปิ่นเกล้า-จรัญฯ และสามารถการันตีถึงกำลังซื้อมหาศาลของคนในทำเลนี้เป็นอย่างดี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันโครงการศูนย์กลางค้าขนาดใหญ่ในบริเวณนี้มีการปรับตัวอย่างสม่ำเสมอ เช่น เมอร์รี่คิง พัฒนาเป็นเทสโก้ โลตัสขนาดใหญ่ โครงการปรับปรุงเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ให้มีทั้งภาพลักษณ์ที่ทันสมัย และสินค้าแบรนด์พรีเมียมที่มากขึ้น โครงการคอมมูนิตีมอลล์ขนาดใหญ่แห่งใหม่ล่าสุด เดอะเซ้นส์ ปิ่นเกล้า เพื่อรองรับดีมานด์การจับจ่ายใช้สอย และตอบรับไลฟ์สไตล์วิถีเมืองของคนในทำเลนั้น กระทั่งการเข้ามาเปิดตัวของซูเปอร์มาร์เกตแบรนด์ ฟู้ดแลนด์ ที่เน้นจับกลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้ระดับบีขึ้นไป เป็นต้น การที่โครงการศูนย์การค้าต่างพยายามปฏิวัติตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และผู้เล่นหน้าใหม่ต่างเข้ามาชิงส่วนแบ่งทางการตลาด เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สะท้อนศักยภาพของที่ดิน และศักยภาพฐานะทางการเงิน และความสามารถด้านการใช้จ่ายของผู้คนในทำเลปิ่นเกล้าได้เป็นอย่างดี
เมื่อการพัฒนาของโครงข่ายคมนาคม และพาณิชยกรรมเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบที่อยู่อาศัยในทำเลปิ่นเกล้า-จรัญฯ จากบ้าน หรืออาคารพาณิชย์เริ่มพัฒนาไปสู่ที่อยู่อาศัยรูปแบบคอนโดมิเนียม เพื่อการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเต็มที่ และเป็นการรองรับการขยายตัวของครอบครัวใหม่ที่หลั่งไหลเข้ามาอยู่ในย่านปิ่นเกล้า-จรัญฯ ที่มากขึ้น
จากการสำรวจซัปพลายคอนโดมิเนียมที่มีอยู่ในย่านปิ่นเกล้า-จรัญฯ กว่า 70% มีการออกแบบส่วนกลาง และรูปแบบอาคารล้วนตอบโจทย์ตลาดกลางล่าง กล่าวคือ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง รูปแบบอาคาร และการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องพัก กระทั่งคุณภาพวัสดุอยู่ในเกณฑ์ระดับมาตราฐาน ไม่สอดรับต่อดีมานด์ของลูกค้าเกรดพรีเมียมที่มองหาคอนโดมิเนียมที่มีสเปซ และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์เฉพาะตัว มีความแตกต่างที่เหนือกว่า
บริษัทฯ จึงเล็งเห็นดีมานด์ และช่องว่างทางการตลาดของคอนโดเซกเมนต์กลาง-บน ระดับราคา 3 ล้านบาทเป็นต้นไป ในการพัฒนาโครงการใหม่ที่ตอบโจทย์พรีเมี่ยมไลฟ์สไตล์ จึงใช้โอกาสนี้พัฒนาโครงการ Life ปิ่นเกล้า โครงการร่วมทุนโครงการที่ 7 ระหว่าง เอพี (ไทยแลนด์) และมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทฯ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น วางโพสิชันเป็นคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียมเพียงหนึ่งเดียวในทำเลปิ่นเกล้า จำนวน 803 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,100 ล้านบาท บนทำเลติดถนนใหญ่ “จรัญสนิทวงศ์” เพียง 40 เมตรจากสถานีรถไฟฟ้าบางยี่ขัน เปิดขายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2558 ในระดับราคาขาย 3-7 ล้านบาท
เพื่อให้เป็นโครงการคอนโดมิเนียมเพียงหนึ่งเดียวในทำเลปิ่นเกล้า-จรัญฯ สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่ม Upper Middle-High End บริษัทฯ จึงวางแนวทางการพัฒนาโครงการ Life ปิ่นเกล้า จะเน้นสร้างความแตกต่างในตัวสินค้า ตั้งแต่วิธีคิดในการดีไซน์พื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของลูกค้ากลุ่มตลาดกลาง-บน เช่น ฟังก์ชัน Walk - in - Closet และการบริหารสเปซในห้องนั่งเล่น ห้องนอนขนาดใหญ่ พร้อมทั้งการนำองค์ความรู้ด้านดีไซน์ของญี่ปุ่น “Modern Japanese การผสานความหรูหราทันสมัย และความรื่นรมย์ของธรรมชาติในสไตล์ญี่ปุ่น” ในทุกรายละเอียดของงานสถาปัตยกรรม และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการที่มากกว่า เพื่อให้เป็นโครงการพักอาศัยระดับพรีเมียมเพียงแห่งเดียวในทำเลปิ่นเกล้าที่โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
จากการเปิดขาย Life ปิ่นเกล้า อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2558 พบว่า ลูกค้าให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมโครงการอย่างต่อเนื่อง มีลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการเฉลี่ย 150 คน/ สัปดาห์ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากลุ่มเรียลดีมานด์ มีวัตถุประสงค์ในการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และซื้อเพื่อเก็บเป็นทรัพย์สินของครอบครัว รองลงมา ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 35 ตารางเมตร วิวแม่น้ำเจ้าพระยา-สะพานพระราม 8 เป็นโหมดที่ขายดีที่สุด และทางบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถทำยอดขายโครงการ Life ปิ่นเกล้า ได้กว่า 40% ก่อนปิดไตรมาส 4/2558
ทั้งนี้ Life ปิ่นเกล้า บนที่ดินขนาด 4-3-86.3 ไร่ จำนวน 1 อาคาร สูง 23 ชั้น ได้รับการจัดสรรเป็นส่วนห้องพักอาศัย จำนวน 803 ยูนิต โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26-35 ตารางเมตร และห้องชุด 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 50-60.50 ตารางเมตร โดยทุกยูนิตได้รับการจัดสรรสเปซภายในอย่างเป็นสัดส่วน ใช้งานได้จริง อยู่สบายในทุกตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ เช่น พื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ ที่ชั้น 1 และชั้น 5 ภายใต้แนวคิด Mura หรือความร่มรื่น และเสียงสะท้อนของสายน้ำที่มาพร้อมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ผืนน้ำที่ทอดยาวกว่า 40 เมตร ฟิตเนสที่มาพร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ด้วยทำเลที่ตั้งติดถนนใหญ่จรัญสนิทวงศ์ เพียง 40 เมตร ถึงสถานีบางยี่ขัน แวดล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวก เช่น โครงข่ายคมนาคมเมือง ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงมากมาย ในระดับราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท ข้อมูลเพิ่มเติม www.apthai.com