พลัสฯ เผยผลสำรวจอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ระบุเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน หลังจากชะลอตัวมากว่า 2 ปี แจงคอนโดมิเนียมระดับบนราคา 100,000 บาท/ตร.ม. ยังเติบโตดี ขณะห้องชุดพร้อมอยู่ราคาแตะ 89,548 บาท/ตร.ม. ขยับขึ้น 5% ชี้แนวโน้มเป็นขาขึ้น เหตุมีปัจจัยบวกหนุนทั้งนโยบายภาครัฐ การท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิจัย พลัสฯ ทำการสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ จ.ภูเก็ต พบว่า มีอัตราที่ลดลง สวนทางต่อตลาดคอนโดมิเนียมซึ่งในตลาดระดับบนที่มีราคา 100,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป ในทำเลติดชายหาดที่มีชื่อเสียงยังเติบโตได้ดี เนื่องจากลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ จึงได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมา สินค้าจากผู้ประกอบการรายใหญ่ส่วนใหญ่จะได้รับการตอบรับที่ดีกว่าตลาด และยังยืนหยัดอยู่ได้แม้สถานการณ์โดยรวมชะลอตัว
ทั้งนี้ โครงการที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่บางรายมีอัตราการดูดซับคอนโดมิเนียมเฉลี่ย 6.47 ยูนิตต่อเดือน ในขณะที่อัตราดูดซับเฉลี่ยรวมทั้งตลาดอยู่ที่ 5.09 ยูนิต จึงสะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่หดตัวตามกระแสเศรษฐกิจ เพียงแต่รอความเชื่อมั่นให้กลับคืนสู่ตลาดเท่านั้น ดังนั้น สถานการณ์ที่ผ่านมาจึงเป็นการชะลอเพียงชั่วคราวเท่านั้น และหากภาวะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแน่นอนว่าอสังหาฯ จ.ภูเก็ต จะสามารถกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
“ภูเก็ตมีซัปพลายคอนโดฯ เสนอขายในตลาด 16,241 ยูนิต โดยมีห้องชุดสร้างเสร็จ 10,452 ยูนิต จาก 53 โครงการ คิดเป็น 64% ของซัปพลายทั้งตลาด และในจำนวนดีมานด์คอนโดฯ พร้อมอยู่เติบโตสูงขึ้นจากรอบก่อน 38% มาอยู่ที่ 7,166 ยูนิต และมีอัตราการตอบรับเฉลี่ย 69% ในส่วนของราคาขายในตลาดคอนโด ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 85,314 บาทต่อตารางเมตร มีการขยายตัวสูงขึ้นจากปีก่อน 4% และในส่วนห้องชุดพร้อมอยู่ พบว่า มีราคาซื้อขายอยู่ที่ 83,110 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งราคาขายเฉลี่ยของห้องชุดพร้อมอยู่ค่อนข้างใกล้เคียงกับราคาขายเฉลี่ยรวมในตลาด ทำให้ปัจจุบันมีการนำห้องชุดกลับมาขายใหม่ในรูปแบบรีเซลมีราคาปรับสูงขึ้นกว่า 5% จากราคาเสนอขายรวมเฉลี่ยในปัจจุบันมาอยู่ที่ 89,548 บาทต่อตารางเมตร”
ทั้งนี้ ระดับราคาเฉลี่ยดังกล่าวส่งผลให้ราคาขายต่อห้องจะอยู่ที่ 2-3 ล้านบาท เป็นโครงการพร้อมอยู่พร้อมโอน และได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐ จึงถือได้ว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดีของผู้บริโภค เพราะนอกจากมาตรการรัฐแล้ว ผู้ประกอบการต่างพากันจัดแคมเปญต่างๆ ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าจะช่วยดูดซัปพลายคอนโดฯ พร้อมอยู่ โดยเฉพาะประเภทซิตีคอนโดฯ ที่มีอยู่ในตลาดได้เป็นอย่างดี และคาดว่าภายใน 2-3 ปี หากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ราคาคอนโดฯ พร้อมอยู่ รวมทั้งตลาดรีเซลคาดว่าจะปรับราคาสูงขึ้นอีก
ปัจจัยที่สำคัญที่จะเข้ามากระตุ้นให้ภาคอสังหาฯ ภูเก็ตมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นจากปัจจุบัน คือ นโยบายภาครัฐที่ให้ความสำคัญในการผลักดันให้จังหวัดมีศักยภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ในแต่ละปีภูเก็ตต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศกว่า 6 ล้านคน เป็นจังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) สูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ และกำลังดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกว่า 13 โครงการ คิดเป็นมูลค่าราว 42.3 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีหลายโครงการที่ภาครัฐกำลังดำเนินการ เช่น โครงการขยายสนามบินภูเก็ต และทางลอดแยกดาราสมุทรที่เปิดดำเนินการแล้วในปี 2558 โครงการขยายทุ่นจอดเรือยอชต์ และทางลอดสี่แยกสามกอง-โลตัส เปิดดำเนินการปี 2559 โครงการทางลอดแยกบางคูและห้าแยกฉลอง เปิดดำเนินการปี 2560 ทางลอดแยกสนามบินภูเก็ต เปิดดำเนินการปี 2562 โครงการรถไฟฟ้าท่านุน-ห้าแยกฉลอง และโครงการเจาะอุโมงค์ทางด่วนกะทู้- ป่าตอง เปิดดำเนินการปี 2564 เป็นต้น อีกทั้งการมีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะยิ่งส่งเสริมให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในเมืองตากอากาศเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุน และนักท่องเที่ยวจากทั้งใน และนอกประเทศต่างหมายตาครอบครองกันเป็นอย่างมาก
“อสังหาฯ ในภูเก็ตเป็นทำเลที่ผู้บริโภคทั้งใน และต่างประเทศชื่นชอบ ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งภูเก็ตมีข้อจำกัดในเรื่องที่ดินเพื่อการพัฒนาสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่อย่างจำกัด หากอสังหาฯ เติบโตอย่างรวดเร็วอาจเกิดภาวะขาดแคลนที่ดิน ซึ่งจะผลักดันให้มูลค่าอสังหาฯ สูงขึ้น จึงเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักลงทุนชาวจีน ชาวญี่ปุ่น และชาวเอเชีย ตัดสินใจลงทุนในคอนโดฯ พร้อมอยู่ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยความคุ้มค่าด้านราคา และผลตอบแทนที่จะได้รับจากการปล่อยเช่าในอนาคต โดยเฉพาะช่วงไฮซีซัน ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดจองที่พักในโรงแรมต่างๆ เริ่มสูงขึ้น และการขายคอนโดฯ ในหาดที่มีชื่อเสียง เช่น หาดป่าตอง หาดลายัน หาดสุรินทร์ และหาดไม้ขาว ได้รับการตอบรับที่ดี”
