xs
xsm
sm
md
lg

ไนท์แฟรงค์ฯ เผยกรุงเทพฯ รอบนอกครองตลาดเปิดตัวคอนโดฯ สูงถึง 73%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ริษิณี สาริกบุตร
ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย ระบุตลาดคอนโดฯ ไตรมาส 2 พบว่า กรุงเทพฯ รอบนอกครองตลาดเปิดตัวโครงการใหม่สูงถึง 73% ปัจจัยราคาที่ดินและราคาที่สูงลิ่วตัวแปรหลัก จับตาคอนโดฯ ระดับกลางห่างไกลระบบขนส่งมวลชนอาจมียอดขายที่ช้าลง

น.ส.ริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่มีความกังวลเรื่องผลกระทบที่ไหลบ่ามาจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ซัปพลายจากพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกครองตลาดด้วยอัตราการเปิดตัวใหม่คิดเป็น 73% ของซัปพลายทั้งหมด เป็นเพราะความขาดแคลนที่ดิน และมูลค่าที่ดินเป็นอุปสรรคที่สำคัญสำหรับผู้พัฒนาโครงการ ดีมานด์จากผู้ซื้อที่ร่ำรวยยังคงแข็งแกร่ง เพราะคอนโดมิเนียมไฮเอนด์ที่มีราคาขายเฉลี่ย 150,000 บาท ต่อตารางเมตรจากผู้พัฒนาโครงการที่มีชื่อเสียงในทำเลไพรม์สามารถขายได้อย่างรวดเร็ว ส่วนที่เติบโตช้าที่สุด คือ ตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลางที่มีทำเลที่ตั้งห่างไกลจากระบบขนส่งมวลชน กล่าวโดยสรุปคือ ราคายังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ในตลาดระดับไพร์ม และซูเปอร์ไพร์ม

ซัปพลายคอนโดมิเนียมในช่วงท้ายไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 เท่ากับ 362,697 ยูนิต เพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาสที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 23.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และจนถึงตอนนี้มีซัปพลายคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น 34,439 ยูนิต จาก 71 โครงการ ซึ่ง 20,780 ยูนิต จาก 37 โครงการจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558

โครงการเปิดตัวใหม่ (New Launch) ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอก ซึ่งคิดเป็น 73% ของซัปพลายใหม่ในไตรมาสที่ 2 ปี 2558 ตามมาด้วยพื้นที่เขตชานเมือง และเขตเมืองคิดเป็น 21% และ 6% ตามลำดับ ของโครงการเปิดตัวใหม่ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 มีเพียงประมาณ 1,242 ยูนิตเท่านั้นที่เปิดตัวใหม่ในเขตเมือง เพราะขาดแคลนที่ดินสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ และที่ดินมีราคาสูงซึ่งเป็นปัญหาสูงสุดในตอนนี้ ดังนั้น โครงการเปิดตัวใหม่ในเขตเมืองส่วนใหญ่จึงเป็นโครงการเกรดเอ และโครงการในระดับที่เหนือขึ้นไปเพื่อแสดงให้เห็นในราคาซึ่งเป็นปัจจัยของค่าที่ดินราคาสูง

แนวโน้มที่คล้ายกันอาจพบได้ในพื้นที่เขตชานเมือง ซึ่งบรรดาโครงการพัฒนาใหม่ที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนกำลังเริ่มเปลี่ยนกลุ่มไปสู่ตลาดระดับกลาง-สูง เพื่อแสดงให้เห็นว่าที่ดินมีราคาสูงขึ้น ซึ่งนอกจากโครงการทั้งหมด 7 โครงการ ที่เปิดตัวในเขตนี้ 5 โครงการ เป็นโครงการคอนโดมิเนียมเกรดเอ ในแง่ของยูนิต 77% ของยูนิตทั้งหมดในเขตนี้เป็นคอนโดมิเนียมเกรดเอ

โครงการคอนโดมิเนียมระดับที่ใหญ่ขึ้นส่วนใหญ่ถูกสร้างในเขตกรุงเทพฯ รอบนอก บางโครงการในเขตที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าในอนาคต เช่น โครงการแอสไปร์ เอราวัณ ซึ่งมีจำนวนยูนิต 1,576 ยูนิต อยู่ห่างจากสถานีพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณเพียง 50 เมตร มีกำหนดเปิดตัวในปี 2563 และโครงการลุมพินี มิกซ์ เทพารักษ์-ศรีนครินทร์ซึ่งมีจำนวนยูนิต 2,041 ยูนิต ตั้งอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองในอนาคต

ในภาพรวมอัตราขายเพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปี 2557 จากเพียง 84% เป็น 85.3% ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ โดยมีจำนวนคอนโดฯ ประมาณ 309,388 ยูนิต จาก 362,697 ยูนิตที่ขายได้ในกลางปีนี้ มีคอนโดฯ ประมาณ 53,309 ยูนิตที่พร้อมขาย โดยที่ประมาณ 38,163 ยูนิต เป็นยูนิตพร้อมขายที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯ รอบนอก ในขณะที่ยูนิตพร้อมขายในเขตชานเมืองเท่ากับ 9,978 ยูนิต และยูนิตพร้อมขายในเขตเมืองมีเพียง 5,168 ยูนิตเท่านั้น

ราคาโครงการคอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ค่อยๆ ขยับราคาสูงขึ้นทั่วทั้งกรุงเทพฯ แต่เป็นช่วงราคาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับทำเล ในเขตศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ราคาเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่เร็วกว่ามาก เพราะความขาดแคลนที่ดิน และการไหลทะลักของโครงการระดับซูเปอร์ไพรม์ที่เปิดตัวในราคาสูงกว่า 250,000 บาทต่อตารางเมตร โครงการที่ตามมา ได้แก่ โฟร์ซีซั่นส์ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ นิมิต หลังสวน ทำลาทองหล่อ และ คิว สุขุมวิท ราคาขายเฉลี่ยในเขตนี้อยู่ที่ 212,588 บาทต่อตารางเมตรในไตรมาสที่ 2 ปี 2558 เพิ่มขึ้นคิดเป็น 18.5% จากราคาในไตรมาสที่ 2 ปี 2557

ในทำนองเดียวกัน พื้นที่เขตชานเมืองมองเห็นราคาที่สูงขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา ไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 ราคาขายเฉลี่ยในเขตนี้อยู่ที่ 127,578 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้นคิดเป็น 15.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ค่าที่ดินที่ใกล้ถนนสายหลัก และขนานไปกับเส้นทางรถไฟฟ้า MRT เป็นปัจจัยหลักของการขึ้นราคา ซึ่งเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะถนนรัชดาภิเษก ที่ตั้งแห่งใหม่ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และโครงการพัฒนาทางพาณิชย์ขนาดใหญ่หลายโครงการ รวมทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระรามเก้า และอาคารซูเปอร์ ทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดแห่งใหม่ของประเทศไทย

น.ส.ริษิณี คาดการณ์ว่า การชะลอตัวในดีมานด์คอนโดมิเนียมกรุงเทพฯ จะยังมีให้เห็นในพื้นที่เฉพาะ ตลาดคอนโดมิเนียมในเขตเมือง และเขตชานเมืองมีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตขึ้นได้อีก พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงอยู่ในกรุงเทพรอบนอกที่โครงการเปิดตัวใหม่เร็วๆ นี้มีราคาสูงเกินไป ด้วยราคาที่เท่ากับยูนิตที่เทียบกันได้ในเขตชานเมือง ซึ่งเข้าถึงระบบขนส่งมวลชน และศูนย์กลางธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น การขาดแคลนที่ดินในเขตเมืองและเขตชานเมืองระดับไพรม์จะบีบให้ราคาสูงขึ้น โครงการพัฒนาในย่านศูนย์กลางธุรกิจส่วนใหญ่ในที่ดินชุดสุดท้ายจะเป็นโครงการระดับซูเปอร์ไพรม์ และผู้พัฒนาโครงการมักปล่อยขายยูนิตในมืออย่างช้าๆ เพื่อผลประโยชน์จากการเพิ่มมูลค่าหรือเพื่อนขายยูนิตระดับซูเปอร์ไพรม์บนโครงสร้างแบบเจ้าของกรรมสิทธิ์แบบเช่าซื้อในที่ดินระดับไพรม์ของรัฐ


กำลังโหลดความคิดเห็น