ไนท์แฟรงค์ฯ คาดอสังหาฯ ปี 59 ขยายตัวน้อย ชี้ปัญหาหนี้ครัวเรือนตัวฉุดกำลังซื้อลูกค้า แบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อ แจงมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ไม่หนุนลูกค้าใหม่ แค่เร่งลูกค้าเก่าตัดสินใจโอนเร็ว เชื่อตลาดบน 7 ล้านบาทขึ้นไปขยายตัวดี ตลาดล่างยังทรงตัว ด้านเมโทรโพลิสฯ แจงแผยปี 59 นำที่ดินสะสม 16 ไร่ ติดสถานีปากน้ำพัฒนาคอนโด 3,000 ยูนิต พร้อมเปิดขายอาคารบี เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ช่วงปลายปี
นายพนม กาญจนเท่าเทียม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2559 คาดว่าจะขยายตัวจากปี 2558 เล็กน้อย เนื่องจากกำลังซื้อลูกค้าไม่ได้เพิ่มขึ้น ขณะที่ปัญหาหนี้ครัวเรือนยังส่งผลต่อการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน แม้ว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ตลาดจะยังได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐ แต่ส่วนลดภาษีที่เกิดจากมาตรการดังกล่าวยังได้ดึงดูดลูกค้าเท่าที่ควร ประกอบกับมาตรการที่ออกมาไม่ได้ช่วยในเรื่องของกำลังซื้อลูกค้า ให้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยไม่กระเตื้องมากนัก
ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เมื่อนับรวมๆ แล้วลูกค้า หรือผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจะได้ประโยชน์เป็นส่วนลดเพียง 2% จากค่าธรรมเนียมการโอน และค่าจดจำนองเท่านั้น ส่วนการนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อที่อยู่อาศัยไปหักภาษีรายได้บุคคลธรรมดา 100,000 บาทต่อปีนั้น ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ต้องมีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ซึ่งในกลุ่มนี้มีจำนวนไม่มาก ดังนั้น มาตรการจึงไม่ได้หนุนให้เกิดการตัดสินใจซื้อใหม่เท่าที่ควร แต่จะช่วยเร่งการตัดสินใจโอนของกลุ่มลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยไปก่อนหน้านี้
“ในปี 2559 ตลาดบน หรือกลุ่มสินค้าไฮเอนด์ 5-7 ล้านบาทขึ้นไป จะยังคงเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีการขยายตัวได้ดี และเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้ครัวเรือน และปัญหาเศรษฐกิจ”
นายเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมโทร โพลิสพรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการปรับตัวลดลงของค่าเงินบาทจะส่งผลบวกต่อตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าซื้อห้องชุดเพื่อลงทุนระยะยาว เพราะมองว่าได้เปรียบจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งจะทำให้ซื้อห้องชุดได้ถูกกว่าปกติ 20% ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ในเซกเมนต์ที่นักลงทุนสนใจ
สำหรับปี 2559 นั้นบริษัทมีแผนจะเปิดขายคอนโดมิเนียมอาคารบี จำนวน 550 ยูนิต ในโครงการเดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ในช่วงปลายปี หลังจากเปิดขายอาคารเอ และอาคารซี ไปก่อนหน้านี้ โดยปัจจุบันอาคารเอ มียอดขายแล้ว 80% จากจำนวนยูนิตรวม 1,075 ยูนิต ส่วนอาคารซี ซึ่งมีจำนวน 144 ยูนิต สามารถขายได้แล้ว 40% นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทยังมีแผนจะนำที่ดินสะสมติดสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (สถานีปากน้ำ) จำนวน 16 ไร่ มาพัฒนาโครงการอาคารชุดโครงการใหม่คาดว่าจะสามารถพัฒนาเป็นอาคารชุดได้ประมาณ 3,000 ยูนิต โดยจะแบ่งการพัฒนาออกเป็นเฟสๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการลงทุน
นายฉลิมชัย กล่าวว่า นอกจากนี้บริษัทได้พัฒนาโครงการ วิลล่า นครินทร์ อ่อนนุช-วงแหวน ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ บนที่ดินประมาณ 75 ไร่ โดยพัฒนาเป็นโครงการประเภทบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และ 3 ชั้น จำนวนยูนิต 170 แปลง ในรูปแบบที่สอดคล้องต่อกลุ่มเป้าหมายครอบครัวสมัยใหม่ และครอบครัวใหญ่ประกอบด้วย Type A : Casa Bella บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 320 ตร.ม. ราคา 14.9 -20.0 ล้านบาท Type B : Casa Paradiso บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 245 ตร.ม. ราคา 10.6 -12.0 ล้านบาท TypeC : Santa Monica บ้านเดี่ยว 3 ชั้น 4 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 310-340 ตร.ม.
“โครงการนี้พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์สร้างที่อยู่อาศัย และสังคมคุณภาพ และจุดขาย การรับประกันโครงสร้างถึง 10 ปี มั่นใจได้ว่าบ้านทุกหลังไม่ทรุดด้วยเสาเข็มที่ลึก 23 เมตร ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศ ด้วยการนำสายไฟฟ้า และสายโทรศัพท์ลงใต้ดิน และพื้นถนนภายในโครงการยังสูงกว่าพื้นถนนด้านนอกจึงหมดห่วงเรื่องปัญหาน้ำท่วม และโครงการอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 10 นาที แต่ไม่มีเสียงรบกวน 100%”
ปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างดำเนินการขายเฟสใหม่ บ้านหรูใกล้คลับเฮาส์ จำนวน 40 แปลงสุดท้าย ซึ่งล่าสุดได้จัดโปรโมชันพิเศษ โดยหลังจากนี้มีแผนจะขยับราคาเพิ่มขึ้นตามสภาวะการตลาดด้วย