กสิกรไทยยกระดับธุรกิจไพรเวตแบงกิ้ง ตั้งสายงานธุรกิจบริการไพรเวตแบงค์ ตอบรับกระแสการเติบโตทั่วโลก ตั้งเป้าปีหน้า AUM แตะ 8 แสนล้านบาท จากปีนี้ 7.5 แสนล้าน รับปีนี้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยแค่ 1.6% หลุดจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6-10% เจอหลากปัจจัยรุมเร้า มั่นใจปีหน้าดันขึ้นสู่เป้าหมายได้ พร้อมผนึกธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ รุกบริการวางแผนความมั่งคั่งธุรกิจครอบครัว
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)กล่าวว่า ธนาคารได้ยกฐานะบริการไพรเวตแบงกิ้งเป็นสายงานธุรกิจบริการไพรเวตแบงก์ที่จะเน้นให้บริการแก่ลูกค้าที่มีสินทรัพย์กับธนาคารตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าตามสภาวะการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และจำนวนของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่ง World Wealth Report 2015 ที่สำรวจโดย Capgemini รายงานว่า ในปี 2557 ประเทศไทยมีการเติบโตของจำนวนลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงถึง 13%
ทั้งนี้ ณ สิ้นกันยายน 2558 สายงานธุรกิจบริการไพรเวตแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย มีลูกค้าที่มีทรัพย์สินตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป ประมาณ 9,200 ราย และมีสินทรัพย์ภายใต้การดูแล 750,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2557 ที่มีลูกค้าประมาณ 8,500 คน มีสินทรัพย์ภายใต้การดูแล 727,000 ล้านบาท โดยธนาคารกสิกรไทยครองส่วนแบ่งตลาดถึง 41%
และช่วงปลายปี 2557 ธนาคารกสิกรไทยได้จับมือกับธนาคารลอมบาร์ด โอเดียร์ พันธมิตรผู้ให้บริการไพรเวตแบงก์ระดับโลกในการยกระดับมาตรฐานบริการของธนาคารกสิกรไทยให้เทียบเท่าระดับสากลทั้งในเชิงองค์ความรู้ การวิจัย การบริหารความเสี่ยง การลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับลูกค้าจากทางเลือกการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ
นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริการไพรเวตแบงก์ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า กลยุทธ์โดยหลักของธนาคารในการเสนอแนะให้กับลูกค้านั้น เป็นทางสายกลางการที่เน้นการสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมกับในความเสี่ยงที่ไม่สูงจนเกินไปนัก แต่อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายในด้านการลงทุนจากปัจจัยด้านลบต่างๆ ทำให้ผลตอบแทนเฉลี่ยของปีนี้อยู่ที่ 1.6% ต่ำกว่าเป้าหมายที่จะวางไว้ 6-10% แต่ธนาคารเชื่อว่าในปีหน้าที่สภาวะต่างๆ น่าจะดีขึ้น จะทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยกลับไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้
“อัตราผลตอบแทนที่ 6-10% นั้น เป็นอัตราที่เราตั้งเป็นค่าเฉลี่ยในช่วง 3-4 ปี แม้ว่าปีนี้จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ในปีหน้าเราเชื่อว่าด้วยปัจจัยอื่นๆ ที่ดีขึ้น จะช่วยดึงอัตราผลตอบแทนที่ดีกลับมาได้ จากผลงานย้อนหลังที่สามารถพิสูจน์ได้ตลอด 6 ปี ด้วยผลตอบแทนถึง 65.63% หรือเฉลี่ย 7.9% ต่อปี”
ทั้งนี้ ในปีหน้าตั้งเป้า AUM ไว้ที่ 800,000 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 9,800 ราย โดยสัดส่วนพอร์ตจะเน้นลงทุนกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นกู้มากขึ้น พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจไพรเวต แบงกิ้งที่ 30-35% เช่นเดียวกับปีนี้
