ยอดจำหน่ายรองเท้าตกวูบกว่า 70% ผู้ผลิตรายเล็กเริ่มอาการโคม่าเริ่มแบกภาระต้นทุนไม่ไหว คาดหากแรงซื้อไม่กระเตื้องต้นปี 2559 จ่อทยอยปิดกิจการ สมาคมผู้ผลิตรองเท้าไทยแนะให้ปรับตัวทำหลายๆ ด้านเพื่อดิ้นให้อยู่รอด อนาคตผู้ผลิตในไทยอาจต้องปรับเปลี่ยนเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบแทน เหตุแข่งขันกับยักษ์ใหญ่อย่างจีน และเวียดนามยาก
นายชนินทร์ จิตต์โกมุท นายกสมาคมรองเท้าไทย เปิดเผยว่า ยอดขายรองเท้าตลาดภายในประเทศขณะนี้ยังคงลดลงต่อเนื่องโดยลดลงกว่า 70% เมื่อเทียบกับยอดขายของปีที่ผ่านมาในแต่ละราย ทำให้ผู้ผลิตรองเท้าที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่ดำเนินธุรกิจอยู่ปัจจุบัน 1,000 กว่ารายเริ่มประสบปัญหาแบกรับภาระต้นทุนที่ไม่คุ้มต่อรายจ่าย ซึ่งหากสถานการณ์แรงซื้อภายในประเทศไม่ดีขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้เชื่อว่า ผู้ประกอบการหลายรายจะทยอยพิจารณาปิดกิจการลงในช่วงต้นปี 2559 เป็นต้นไป
“เราพบว่ายอดขายในประเทศลดลงไปมากเพราะแรงซื้อต่ำอย่างรายเล็กเคยขายได้เฉลี่ยเดือนละ 1 แสนกว่าบาท ตอนนี้เหลือไม่ถึง 2-3 หมื่นบาท หลายรายเองถึงขั้นบอกอาจต้องปิดกิจการ เราเองก็คุยกันว่าถ้าเป็นอย่างนี้ปีหน้าจะอยู่กันอย่างไร เพราะไม่สามารถแบกรับภาระเลี้ยงดูคนงานได้ โดยเชื่อว่าหากผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ปรับตัวเองให้อยู่รอดที่สุดคงหนีไปพ้น” นายชนินทร์ กล่าว
ปัจจุบัน ผู้ผลิตรองเท้าขนาดใหญ่ในไทยส่วนใหญ่ได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วโดยเฉพาะ พม่า และกัมพูชาบางส่วน แต่ระดับผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก เช่น ไต้หวันเองก็ย้ายฐานไปยังกัมพูชาเช่นกัน ซึ่งรายใหญ่คงไม่มีปัญหาอะไร แต่รายกลางและเล็กในไทยโดยเฉพาะธุรกิจครอบครัวที่ทำรองเท้าป้อนตลาดในประเทศของไทยเองแต่เดิมเคยมองว่าจะอยู่รอดตอนนี้คงจะลำบากหากไม่สามารถปรับตัวเองในการทำงานหลายๆ ด้านมากขึ้นให้ทันต่อกระแสโลกที่เปลี่ยนเร็ว
“ขณะนี้ผู้ผลิตไทยจะรับจ้างผลิต และทำแบรนด์สินค้าของตนเองไปพร้อมกันแต่เพียงเท่านี้ก็ไม่เพียงพอในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศที่ตกต่ำ หลายรายต้องหันไปใช้วิธีการนำเข้าจากต่างประเทศมาทำตลาด การขายเฉพาะวัตถุดิบ เป็นต้น ซึ่งที่สุดก็อาจต้องเลือกเพราะเวลานี้การรับจ้างผลิตเองออเดอร์ก็หนีไปเพื่อนบ้านหมดแล้วเพราะต้นทุนต่ำ” นายชนินทร์ กล่าว
สำหรับการส่งออกรองเท้าก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างจากการส่งออกภาพรวมของไทยที่คาดว่าปีนี้จะติดลบกว่า 5% และในปี 2559 อุตสาหกรรมการส่งออกรองเท้าเองก็ยังจะไม่ดีขึ้นนัก เพราะการผลิตของไทยเป็นเพียงส่วนน้อยมากของตลาดใหญ่ ที่ขณะนี้ผู้ค้าหลักๆ จะเป็นจีน และเวียดนาม โดยเฉพาะเวียดนามที่ล่าสุดกลายเป็นผู้นำเข้าวัตถุดิบหนังมากสุดในโลกแล้ว และไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เวียดนามสั่งนำเข้าวัตถุดิบประเภทหนังฟอก ชิ้นส่วนต่างๆ ซึ่งทำให้อนาคตไทยอาจต้องปรับเปลี่ยนบทบาทจากผู้ผลิตรองเท้า เป็นผู้ผลิตวัตถุดิบป้อนให้แก่ตลาดโลกแทนรวมถึงการเป็นผู้กระจายวัตถุดิบสู่ภูมิภาคจากความได้เปรียบภูมิประเทศในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)