xs
xsm
sm
md
lg

“APCO” ลงนามร่วมทุนสิงคโปร์ ลุยธุรกิจขายตรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายแพทย์พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ หรือ APCO
APCO ลุยตั้งบริษัทร่วมสิงคโปร์ ขยายช่องทาง MLM ต่อยอดธุรกิจ พร้อมร่างข้อตกลงทำ MOU ร่วมมือกับนักวิจัยภูมิคุ้มกันวิทยาของมหาวิทยาลัยชั้นนำ จัดทำโครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่สังคมกลุ่มผู้สูงอายุ กางแผนขยายตลาดผ่านการโฆษณาทางฟรีทีวีเพิ่ม พร้อมเตรียมส่งผลิตภัณฑ์บุกร้านขายยา

นายแพทย์พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัยพัฒนาผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมกับบริษัทในสิงคโปร์ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO ในช่องทางธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น หรือ Multi-level Marketing (MLM) สำหรับผู้บริโภคในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเกาหลี โดยตั้งชื่อบริษัทร่วมดังกล่าวว่า Asian Phytoceuticals International Limited (API) โดยสัดส่วนการถือหุ้น แบ่งเป็น APCO (33.3%) ผู้บริหาร APCODM (33.3%) และผู้บริหาร SAB บริษัทของสิงคโปร์ (33.3%)

ทั้งนี้ รูปแบบการขายของ API คือ APCO ประเทศไทย จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ให้แก่ API จำหน่ายต่อให้บริษัท MLM ที่จัดตั้งอยู่แล้วใน AEC โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปจำหน่าย มี 4 ผลิตภัณฑ์ คือ น้ำมังคุด Th Balance / Arthrinok สำหรับข้อเข่าเสื่อม / BIM O สำหรับดูแลสายตา / Th 17 สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง

“ตอนนี้กำลังจดทะเบียนบริษัทกันอยู่ คาดว่าเริ่มดำเนินธุรกิจได้ในเดือนมกราคม 2559 โดยคนที่บริหารงานของบริษัท API คือ อดีตนายกสมาคมขายตรงของสิงคโปร์ (2 สมัย) ที่มีประสบการณ์ขายตรง และมีความคุ้นเคยกับบริษัทขายตรงชั้นนำของประเทศใน AEC ทั้งนี้ APCO จะได้ net margin จากการขายให้ API 60% ส่วน API ก็ได้ค่าคอมมิชชัน 20-25% ของราคาที่ขายให้แก่บริษัท MLM ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO APCO จึงได้รับกำไรจากการขายถึง 2 ต่อ ทั้งใน APCO และ API”

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการร่างสัญญาบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับนักวิจัยภูมิคุ้มกันวิทยา ในมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของไทย เพื่อจัดทำโครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่สังคมกลุ่มผู้สูงอายุ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ทั้งนี้ ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ได้ในอนาคต

ส่วนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างการเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องฟรีทีวีเพิ่มเติม จากปัจจุบันมีรายการออกอากาศผ่านทางสถานี ททบ.5 สัปดาห์ละ 4 รายการ และในช่องฟ้าวันใหม่ สัปดาห์ละ 5 วัน เนื่องจากมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ ซึ่งจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ Operation BIM เรื่องข้อเข่าเสื่อม มะเร็ง และเบาหวาน ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อมมียอดขายดีที่สุด และในเดือนธันวาคมปีนี้จะเริ่มโปรโมตผลิตภัณฑ์ BIM E ดูแลสายตาเพิ่ม

สำหรับการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านร้านยาทั่วประเทศจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนนี้ ในร้านยาฟาสซิโน (Fascino) จำนวน 80 สาขาทั่วประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย มี 5 ผลิตภัณฑ์ คือ 1.น้ำมังคุด Th Balance 2.BIM A สำหรับโรคข้อเข่าเสื่อม 3.BIM D สำหรับโรคเบาหวาน 4.BIM E สำหรับการดูแลสายตา 5.Balanc สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง และสร้างภูมิต้านทาน โดยภายในไตรมาส 1/59 บริษัทจะประเมินยอดการขายว่าควรขยายการจำหน่ายเพิ่มในร้านยาอื่นๆ ทั่วประเทศหรือไม่ ถ้าผลเป็นที่พึงพอใจก็จะเริ่มขยายการจำหน่ายในร้านยาอื่นๆ ในไตรมาส 2/59

“บริษัทเชื่อมั่นว่าภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 และผลักดันให้ภาพรวมผลประกอบการปี 2558 มีรายได้รวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 425.81 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 118.77 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/2558 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 94.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21.33 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม จำนวน 112.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 34.31 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ งวด 9 เดือนปี 2558 บริษัทมีรายได้ 287.49 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63.64 ล้านบาท”
กำลังโหลดความคิดเห็น