ยอดขายไตรมาส 3 “เอเชียน โฟย์โตซูติคอลล์” ลดลงเหลือ 94.89 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ผู้บริหารหวังไตรมาส 4 จะดีขึ้น เตรียมขยายช่องทางขายสินค้าใหม่ 5 ตัวผ่านร้านยาฟาสิโน 80 สาขา และร้านขายยาทั่วประเทศ คาคบริษัทร่วมทุน API เริ่มกระจายสินค้าในต่างประเทศให้ APCO ได้ใน ม.ค. 59
นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เปิดเผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2558 ว่า บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 94.89 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเคยมีทั้งสิ้น 112.39 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิไตรมาส 3/2558 จะมีทั้งสิ้น 34.31 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ APCO สามารถทำรายได้ และกำไรสุทธิรวมกัน 287.49 ล้านบาท และ 63.64 ล้านบาทตามลำดับ
ทั้งนี้ APCO ได้ให้เหตุผลถึงรายได้ที่ลดลงนั้นเกิดจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน แต่กระนั้นก็ยังคงเชื่อมั่นว่าภาพรวมรายได้น่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 และผลักดันให้ภาพรวมรายได้ของผลประกอบการตลอดทั้งปี 2558 อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีที่ก่อน ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 425.81 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 118.77 ล้านบาท
บริษัทยังระบุว่า มีแผนที่จะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย 5 ผลิตภัณฑ์สินค้าตัวใหม่ผ่านร้านขายยาฟาสิโน จำนวน 80 สาขาทั่วประเทศ โดยผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายมี 5 ผลิตภัณฑ์ คือ 1.น้ำมังคุด Th Balance 2.BIM A สำหรับโรคข้อเข่าเสื่อม 3.BIM D สำหรับโรคเบาหวาน 4.BIM E สำหรับการดูแลสายตา 5.Balanc สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง และสร้างภูมิต้านทาน
อย่างไรก็ตาม ภายในไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2559 บริษัทจะประเมินผลยอดการขายว่าเป็นที่น่าพอใจ และ APCO ควรขยายการจำหน่ายเพิ่มในร้านยาอื่นๆ ทั่วประเทศด้วยหรือไม่ สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่มีในปัจจุบันนั้น นายพิเชษฐ์ ย้ำว่า เติบโต 10% ในทุกช่องทาง
นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมกับบริษัทในสิงคโปร์ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO ในช่องทางธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น หรือ Multi-level Marketing (MLM) สำหรับผู้บริโภคในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเกาหลี โดยตั้งชื่อบริษัทร่วมดังกล่าวว่า Asian Phytoceuticals International Limited (API) โดยสัดส่วนการถือหุ้นแบ่งเป็น APCO (33.3%) ผู้บริหาร APCODM (33.3%) และผู้บริหาร SAB บริษัทของสิงคโปร์ (33.3%)
โดยคาดว่า API จะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ในเดือนมกราคม 2559 ส่วนรูปแบบการขายของ API นั้น APCO ประเทศไทยจะเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้แก่ API เพื่อจำหน่ายต่อให้บริษัท MLM ที่จัดตั้งอยู่แล้วใน AEC โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปจำหน่าย มี 4 ผลิตภัณฑ์ คือ น้ำมังคุด Th Balance, Arthrinok สำหรับข้อเข่าเสื่อม, BIM O สำหรับดูแลสายตา และ Th 17 สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
ทั้งนี้ APCO จะได้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิ (net margin) จากการขายให้ API 60% ส่วน API จะได้ค่าคอมมิชชัน 20-25% ของราคาที่ขายให้แก่บริษัท MLM ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO ดังนั้น APCO จะได้รับกำไรจากการขายถึง 2 ต่อทั้งใน APCO และ API
ด้านความคืบหน้าในการร่างสัญญาบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับนักวิจัยภูมิคุ้มกันวิทยาในมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของไทย เพื่อจัดทำโครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่สังคมกลุ่มผู้สูงอายุ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ซึ่งถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ได้ในอนาคต