“อนันต์” ชี้ธุรกิจศูนย์การค้าดาวรุ่ง-กำไรสูง หากเลือกทำเล และกลุ่มเป้าหมายถูก เตือนการแข่งขันรุนแรง รายใหญ่มีอำนาจชี้ขาดเจ้าของร้านค้าเปิดหรือไม่เปิดร้านในศูนย์การค้าผู้ประกอบการรายใหม่ได้ จับตาธุรกิจเพื่อสุขภาพอีกธุรกิจที่มาแรงหลังจำนวนผู้สูงอายุในประเทศเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง เผย 2 ธุรกิจที่ไม่คิดลงทุน รับเหมาก่อสร้าง ระบุเก็บเงินลูกค้ายาก และธุรกิจร้านอาหาร เหตุไม่ชำนาญ
นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และประธานกรรมการบริหารธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจประเทศไทย ในหัวข้อ “ไขความลับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์” ว่า วิกฤตตลาดตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2558 ถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าปี 2540 และต่างกันที่ในปี 2540 นั้นวิกฤตเศรษฐกิจกระทบต่อกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และการขาดสภาพคล่องทางการเงินในประเทศ แต่ในปีนี้วิกฤตที่เกิดขึ้นกระทบจากกลุ่มคนระดับล่าง เพราะสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่เยอะ แต่ปัญหาคือ กลุ่มคนมีรายได้น้อยขาดความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย และบริโภค
ดังนั้น ในการลงทุนในธุรกิจต่างๆ ผู้ลงทุนควรศึกษา และลงทุนในธุรกิจที่มีความชำนาญ และมีความเชี่ยวชาญเป็นหลัก ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วธุรกิจที่ไม่น่าทำ หรือไม่ต้องการเข้าไปลงทุนมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากกลุ่มธุรกิจนี้ต้องพึ่งพาการลงทุนในโครงการภาครัฐในการเติบโต ซึ่งต้องมีการเจรจาต่อรอง และใช้เส้นสายในการประมูลงานกับหน่วยงานราชการ ซึ่งในปัจจุบันการปราบปราม และต่อต้านการคอรัปชันเข้มงวด ขณะที่งานในภาคเอกชนนั้นมีจำกัด ทำให้เกิดการแข่งขันสูง ที่สำคัญคือ ในการเก็บเงินค่าก่อสร้างจากลูกค้าค่อนข้างลำบาก อีก 1 ธุรกิจที่ไม่ต้องการลงทุน คือ ธุรกิจร้านอาหาร เพราะขยายตัวยาก
ส่วนธุรกิจที่น่าลงทุน คือ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า และธุรกิจสุขภาพ ทั้งนี้ ธุรกิจศูนย์การค้าเป็นธุรกิจที่ทำกำไรสูงมากเมื่อเทียบกับธุรกิจอสังหาฯ โดยธุรกิจศูนย์การค้านั้นเมื่อนำเข้ากองทุนแล้วจะได้เงินก้อนที่ลงทุนไปคืนทันที ในขณะที่การจัดเก็บภาษีนั้นจะทยอยจ่ายเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม การลงทุนในธุรกิจศูนย์การค้านั้นการแข่งขันสูงมาก รายใหญ่ในตลาดมีเพาเวอร์ในการชี้ขาดให้เจ้าของร้านค้าเข้าไปเปิดร้านในศูนย์การค้าของผู้ประกอบการรายใหม่ได้หรือไม่ ดังนั้น ในการลงทุนจึงต้องระมัดระวัง และพิจารณาในเรื่องของการเลือกทำเล และกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมจึงจะสามารถประสบความสำเร็จได้
สำหรับธุรกิจเพื่อสุขภาพนั้น ถือเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เนื่องจากในปัจจุบันคนให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ ประกอบกับจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มคนกลุ่มนี้ต้องการดูแลสุขภาพ และรักษาร่างกายรวมถึงรักษาโรคต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ธุรกิจด้านสุขภาพจึงเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มที่ดีอีกตัวหนึ่ง
