พราวฯ เชื่ออสังหาฯ ดันเศรษฐกิจไทยฟื้น เล็งอัดแคมเปญเร่งยอดขายปลายปี ขนห้องชุด 20 ยูนิตในเฟส 2 จัดแคมเปญ “หุ้นแลกห้อง” ภายใต้แคมเปญ “PARK24 Believe in Thailand” แจงยอดขายพาร์ค 24 เฟส 2 ทะลุ75% หลังปิดการขายเฟสแรกเรียบร้อย
นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด กล่าวว่า ยังคงมีความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวในทิศทางที่ดี และเชื่อว่าภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเป็นหนึ่งในตัวผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนไปได้ในสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในปัจจุบัน โดยมองช่องการลงทุนทางเลือกใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง เห็นได้จากการที่ราคาที่ดินมีแต่เพิ่มมูลค่าสูงขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะในทำเลที่ดีเยี่ยมที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่อปัจจัยผันผวนน้อย เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น และถ้าย้อนกลับไปช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ปี 2540 จะเห็นได้ชัดว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ แต่มีการฟื้นตัวได้เร็วกว่าธุรกิจอื่นๆ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายในครึ่งหลังปี 58 บริษัทได้จัดแคมเปญการตลาดภายใต้ชื่อ‘PARK24 Believe in Thailand’ซึ่งเป็นโปรโมชันหุ้นแลกห้องครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย หวังเจาะกลุ่มนักลงทุนไทยในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยข้อเสนอการลงทุนรูปแบบใหม่ โดยลูกค้าสามารถนำหุ้นที่อยู่ใน SET50 มาแลกเป็นเงินดาวน์ 20% ใน “โครงการพาร์ค 24 เฟส 2” ได้ โดยลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ไม่จำกัดราคา ซึ่งมีเข้าร่วมแคมเปญเพียง 20 ยูนิตเท่านั้น โดยโครงการจะคิดมูลค่าหุ้นที่จะทำการแลกเปลี่ยนจากดัชนีปิดสูงสุดที่ระดับ 1,615 จุด ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 58 เทียบกับราคาปัจจุบัน ซึ่งหลังจากลูกค้านำหุ้นใน SET50 ของลูกค้ามาแลกแล้ว กรรมสิทธิ์หุ้นดังกล่าวจะเป็นของบริษัท และบริษัทจะมีการบริหารพอร์ตหุ้นของบริษัท
“สำหรับแคมเปญนี้ดูเหมือนบริษัทจะยอมขาดทุน ณ วันแรก แต่ภาพรวมแล้วต้องการดูที่จุดประสงค์ของลูกค้าเป็นหลักในการต้องการที่อยู่อาศัย เราหวังว่าแคมเปญนี้จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี และช่วยกระจายความเสี่ยงต่อการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงซบเซา ส่งผลให้ภาพรวมของภาคการลงทุนไทยดีขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะมีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์การลงทุนไทย และเรียกความเชื่อมั่นในการลงทุนให้กลับมาได้ และหาก 20 ยูนิตที่ร่วมแคมเปญได้รับผลการตอบรับดีก็จะมีการเพิ่มจำนวนยูนิตในการร่วมแคมเปญอีก สำหรับหุ้นที่ลูกค้านำมาร่วมแคมเปญหากตัวไหนดีก็จะเก็บไว้ หากตัวไหนไม่ดีก็ต้องระบายออกไป” นายพสุ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีกองทุนรวมที่จดทะเบียนที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน โดยนักลงทุนชาวสิงคโปร์ และฮ่องกงสนใจที่จะซื้อยกอาคารที่ 4 มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์บอมบ์บริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2558 แต่ก็ไม่มีผลต่อนักลงทุนชาวต่างชาติแต่อย่างใด ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา เนื่องจากนักลงทุนประเภทดังกล่าวจะนำห้องชุดไปขายต่อให้นักลงทุนรายย่อยในประเทศของตนเอง
โครงการ “พาร์ค 24” เฟส 2 ประกอบด้วย อาคารที่พักอาศัย จำนวน 3 อาคาร คืออาคาร 4, 5 และ 6 โดยมีความสูง 51 ชั้น 44 ชั้น และ 29 ชั้น ตามลำดับ ขนาด 27-110 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.9-27 ล้านบาท รวม 1,174 ยูนิต มูลค่าโครงการเกือบ 10,000 ล้านบาท โดยขณะนี้ โครงการทั้ง 2 เฟส ได้ทำการขายไปแล้วกว่า 75% มูลค่ากว่า 8,800 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนลูกค้าต่างชาติประมาณ 29% ส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชีย เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง
