xs
xsm
sm
md
lg

คาดการเร่งเบิกจ่ายงบฯ และโครงการลงทุนภาครัฐหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลือของปีนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


น.ส.ธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยถึงมุมมองตลาดหุ้นไทยว่า มองเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปลายปี 58 ที่ระดับ 1,400-1,450 จุด ซึ่งคิดเป็น P/E ที่ประมาณ 13 เท่า ขณะที่จากข้อมูลของการประมาณผลกำไรรวมของบริษัทจดทะเบียนของ Bloomberg ตลาดได้คาดการณ์อัตราการเติบโตทางกำไรของบริษัทจดทะเบียนในดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ในปี 58 นี้ที่ประมาณ 17% และในปี 59 ที่ 14%

ทั้งนี้ ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากความผันผวนของตลาดโลก และเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าคาด อย่างไรก็ตาม ในระยะกลางถึงยาวตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากราคาปัจจุบันได้ปรับลงมามากแล้ว โดยปัจจัยสนับสนุนจะมาจากการเร่งเบิกจ่าย และการผลักดันโครงการลงทุนของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่เน้นช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร รวมถึงการลงทุนในโครงการขนาดเล็กที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ เช่น ภาคการจ้างงาน ภาคการก่อสร้างและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งหากดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในด้านการใช้จ่าย และการลงทุนภาคเอกชน

ขณะที่แนวโน้มการอ่อนค่าของเงินบาท และการลดค่าเงินหยวนของจีนน่าจะเป็นแรงหนุนต่อภาคการส่งออกของไทย นอกจากนี้ สภาพคล่องในตลาดการเงินโลกที่ยังอยู่ในระดับสูงจากนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางหลักๆ ของโลก เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในหุ้น

โดยในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) มีผลการดำเนินงานติดลบกว่า 11% โดยกองทุนหุ้นไทยส่วนใหญ่ต่างมีผลการดำเนินงานติดลบตามทิศทางภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด เช่นเดียวกับเศรษฐกิจไทย รวมถึงความกังวลในตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ก่อให้เกิดความผันผวน และแรงเทขายอย่างหนักในตลาดการเงินทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม จากกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นการคัดเลือกหลักทรัพย์เป็นรายตัว (Stock Selection) และการบริหารการลงทุนอย่างระมัดระวังตามภาวะตลาด ทำให้กองทุน LTF ของ บลจ.กสิกรไทยปรับตัวลงน้อยกว่าตลาด ซึ่งจากผลการดำเนินงานในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 ก.ย.57-31 ส.ค.58) กองทุนยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้จากเงินปันผลที่ได้รับจากหุ้นที่กองทุนถืออยู่ ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังกองทุนเน้นการลงทุนในหุ้นปันผล ประกอบกับเป็นฤดูกาลจ่ายเงินปันผลของบริษัทจดทะเบียน ทำให้กองทุนสามารถจ่ายเงินปันผลได้ ทั้งนี้ หากนับรวมการจ่ายปันผลในงวดก่อนหน้าแล้ว จะคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยที่ 2.8-3% ต่อปี

สำหรับมุมมองสถานการณ์เศรษฐกิจ มองว่า เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยกดดันเรื่องการขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง 58 โดยสภาพัฒน์ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือ 2.7%-3.2% จากเดิมที่คาดไว้ 3.0%-4.0% จากความกังวลของภาคการส่งออกที่หดตัวต่อเนื่อง โดยตัวเลขส่งออกในเดือน ก.ค.58 หดตัวลง 3.56% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ตามการชะลอตัวของอุปสงค์ในตลาดโลก และราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่สำคัญ ได้รับผลกระทบระยะสั้นจากเหตุลอบวางระเบิดในประเทศ รวมถึงการปรับลดค่าเงินหยวนในช่วงที่ผ่านมาอาจจะส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งคิดเป็นจำนวนประมาณ 17% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางมายังไทย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องติดตามคือ การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังมีการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งน่าจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นโดยเฉพาะภาคการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน


กำลังโหลดความคิดเห็น