“AUSIRIS” คาดราคาทองคำในตลาดโลกผันผวน แนะนักลงทุนควรลงทุนด้วยความระมัดระวังจากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ฟันธงเฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนกันยายนนี้แน่นอน แนะกรอบการลงทุนทองคำแท่งที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 18,000-19,500 บาท/ต่อบาททองคำ หรือประมาณ 1,110 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมราคาทองคำในตลาดโลกในครึ่งปีหลังจะยังคงอ้างอิงต่อนโยบายการอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด โดยคาดว่าในเดือนกันยายนนี้จะมีการประชุมสภาเพื่อขออนุมัติปรับเพิ่มเพดานหนี้ และอัตราการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ (จากปัจจุบันซึ่งแข็งค่าจากต้นปีอยู่ที่ 7.34% และเป้าหมายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะกระตุ้นให้อัตราการว่างงานลดลงต่ำกว่า 5.3% และอัตราเงินเฟ้อที่ 2% อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเดือนกันยายนนี้เฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยแน่นอน แต่คาดว่าจะเลื่อนไปในรอบการประชุมเดือนธันวาคม เนื่องจากว่าหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนของเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อประเทศต่างๆ ที่เป็นคู่ค้า ซึ่งทางธนาคารกลางสหรัฐฯ เองจะพยายามตรึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐไว้เพื่อไม่ให้กระทบต่อประเทศต่างๆ เช่น ประเทศจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ แม้ว่าสถานการณ์ค่าเงินหยวนในประเทศจีนจะมีความผันผวน และอ่อนค่าลงต่อเนื่องก็ตาม
“อย่างไรก็ตาม หากเป็นไปตามคาดว่าเฟดยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนกันยายนนี้ ซึ่งถึงแม้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นตัวสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศก็ตาม โดยมองว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นกลไกสำคัญในการลงทุนทองคำ เนื่องจากว่าจะทำให้ราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับราคาที่ 1,200-1,300 เหรียญต่อออนซ์ต่อเนื่องไปจนถึงปลายปีที่จะมีการประชุมในรอบถัดไปในเดือนธันวาคม”
ขณะเดียวกัน นักลงทุนควรติดตามเศรษฐกิจโดยรวมในกลุ่มยูโรโซน โดยเฉพาะในส่วนของประเทศกรีซ ว่าจะสามารถหาข้อสรุปในการเจรจาข้อตกลงต่อเจ้าหนี้ได้หรือไม่ อีกทั้งมาตรการ QE ที่จะต้องอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มขึ้นหรือไม่ และปัญหาหนี้ของประเทศสมาชิกอื่นๆ เช่น สเปน โปรตุเกส และอิตาลี นอกจากนี้ ปัญหายังมีปัญหาอื่นๆ ได้แก่ การรวมกันของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในชื่อกลุ่มว่า BRICS ของ 5 ประเทศ คือ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ เพื่อลดบทบาทของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะกระทบต่อภาพรวมการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินลงทุนในตลาดทุนต่างๆ ทั่วโลก
ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ หากเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกชะลอตัวลง และตลาดหุ้นตกต่ำต่อเนื่อง จะส่งผลให้ทองคำมีโอกาสปรับตัวดีขึ้น โดยมองว่า หากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนตัวลงไปแตะระดับที่ 36.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวไปอยู่ที่ประมาณ 19,650 บาท/บาททองคำ ซึ่งหากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลงทุกๆ 1 บาท จะทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นเฉลี่ยที่ 1,000 บาท/บาททองคำ อย่างไรก็ตาม กรอบการลงทุนทองคำแท่งที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 18,000-19,500 บาท/ต่อบาททองคำ หรือประมาณ 1,110 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์