คอลลิเออร์สฯ คาดการณ์ตลาดคอนโดฯ เมืองพัทยาชะลอตัวยาว หลังเจอปัจจัยลบอื้อ นักท่องเที่ยวลด ลูกค้ารัสเซียหายจากค่าเงินรูเบิลตกต่ำ ครึ่งปีแรกพบคอนโดฯ เปิดขายใหม่ 5,280 ยูนิต กว่า 93% อยู่นาจอมเทียน ซัปพลายเหลือขายในตลาดกว่า 1.8 หมื่นยูนิต ราคา 5 หมื่น-1 แสนบาท/ตร.ม. เหลือขายมากที่สุด
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 2558 มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ 10 โครงการ จำนวน 5,280 ยูนิต ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากช่วงครึ่งหลังปี 2557 เนื่องจากปัจจัยลบหลายอย่างทั้งภายใน และนอกประเทศไทย จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในพัทยามีจำนวนลดลง โดยเฉพาะชาวรัสเซียซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักในตลาดคอนโดมิเนียมพัทยา เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมชะลอตัวลง แม้ว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จำนวนของนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ชาวจีนยังไม่ใช่ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในพัทยา
ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ 5,280 ยูนิต ประมาณ 93% หรือ 4,930 ยูนิต ของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ในครึ่งแรกปี 2558 อยู่ในทำเลนาจอมเทียน เนื่องจากมีคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,300 ยูนิต เปิดขายในทำเลนี้
แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการชาวจีนบางรายมีแผนจะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยาภายในปี 2558 โดยเฉพาะในทำเลจอมเทียน และนาจอมเทียน แต่ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยายังคงไม่ฟื้นตัว และยังได้รับผลกระทบจากปัญหาเรื่องโอเวอร์ซัปพลาย
สำหรับอัตราการขายแม้ว่าจะกระเตื้องขึ้นบ้าง แต่ว่ายังมียูนิตเหลือขายอยู่ในตลาดอีกค่อนข้างมาก โดยอัตราการขายเฉลี่ยของตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาอยู่ที่ประมาณ 75% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2557 ในช่วงระหว่างปี 2554-ครึ่งแรกปี 2558 มีคอนโดมิเนียมมากกว่า 68,400 ยูนิตเปิดขาย และส่วนใหญ่มีคนซื้อ หรือจองไปแล้ว แต่ว่ายังมีอีกมากกว่า 18,000 ยูนิต ที่ยังคงขายไม่ได้ และเหลือขายอยู่ในตลาด และถ้ารวมกับยูนิตของนักเก็งกำไรนักลงทุนทั้งหลายก็อาจจะมากกว่า 22,000 ยูนิต
นายสุรเชษฐ กล่าวต่อว่า ทำเลจอมเทียนเป็นทำเลยอดนิยมในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่ถนนจอมเทียนสาย 2 เปิดให้บริการ เนื่องจากมีที่ดินว่างเปล่าอยู่เป็นจำนวนมาก และราคาก็ยังคงต่ำกว่าทำเลอื่นๆ ผู้ประกอบการในพัทยาให้ความสนใจในกลุ่มผู้ซื้อชาวไทย และชาวต่างชาติบางกลุ่มมากขึ้น เช่น จีน อินเดีย และชาวเอเชียอื่นๆ เพื่อทดแทนกำลังซื้อชาวรัสเซียที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าไปใช่วงปี 2557-ครึ่งแรกปี 2558
ทำเลจอมเทียนมีคอนโดมิเนียมเหลือขายมากกว่า 5,480 ยูนิต มากที่สุดในพัทยา ในขณะที่นาจอมเทียน มาเป็นลำดับที่ 2 ที่ประมาณ 4,680 ยูนิต หลังจากที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายหลายโครงการในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
คอนโดมิเนียมเหลือขายในตลาดประมาณ 8,745 ยูนิต อยู่ในระดับ 50,001-100,000 บาทต่อตารางเมตร และอีกประมาณ 6,040 ยูนิต ขายในระดับราคาต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตร มีแค่ประมาณ 1,540 ยูนิตเท่านั้นที่ขายในระดับราคามากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร
“เรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการไทย และต่างชาติทั้งรายเล็ก รายใหญ่ต่างให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะว่ามีคอนโดมิเนียมประมาณ 10,000 ยูนิต มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม-ธันวาคม 2558 และการที่มีนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยา รวมทั้งการที่ชาวรัสเซียประสบต่อปัญหาเรื่องค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลง ทำให้หลายฝ่ายกังวลเรื่องของการทิ้งดาวน์ และยื้อการโอนกรรมสิทธิ์ออกไปให้นานที่สุด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการโดยตรง ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาน่าจะยังคงไม่ฟื้นตัวภายในปีนี้” นายสุรเชษฐ กล่าว