xs
xsm
sm
md
lg

โบรกเกอร์แห่ปรับลดเป้าดัชนีตลาดหุ้น ทองคำราคาปรับลงต่ำสุดรอบ 5 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

โบรกเกอร์ทยอยปรับลดเป้าดัชนีฯ สินปี บล.เอเซีย พลัส ให้เหลือ 1,420 จุด จับตาวิกฤตภัยแล้งเป็นตัวแปรสำคัญ ขณะที่ บล.บัวหลวง มองที่ 1,570 จุด เพราะยังมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากรัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนในการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ ส่วนราคาทองคำล่าสุด ปรับต่ำสุดรอบ 5 ปี ตลาดไทยวันเดียวลดพรวดกว่า 300 บาท เหตุสหรัฐฯ ส่งสัญญาณทยอยขึ้นดอกเบี้ย

รายงานข่าวภาวะดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 20 กรกฎาคม 2558 ปิดที่ 1,466.71 จุด ลดลง 12.60 จุด เปลี่ยนแปลง -0.85% มูลค่าการซื้ขาย 25,246.56 ล้านบาท โดยระหว่างวันแตะจุดสูงสุดที่ 1,481.27 จุด และต่ำสุดที่ 1,466.64 จุด

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวถึงแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในครึ่งหลังของปีนี้ว่า มีแนวโน้มที่จะเป็นขาลงมากกว่าขาขึ้น ดังนั้น บล.บัวหลวง จึงพิจารณาปรับลดประมาณการดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ สิ้นปี 2558 ลงเหลือ 1,570 จุด จากที่เคยคาดการณ์เมื่อตอนต้นปีที่ 1,650 จุด บนราคาปิดกำไรต่อหุ้น 15.5 เท่า และกำไรต่อหนี้ 96.3 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ เป็นการปรับลดประมาณการจากปัจจัยทั้งจากภายใน และภายนอกประเทศที่จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนนโยบายดอกเบี้ยในสหรัฐฯ การจัดการกับสัดส่วนหนี้สินในภาคครัวเรือนที่กำลังส่งผลกระทบต่อการโภคในภาคครัวเรือนของรัฐบาลที่อาจทำได้ค่อนข้างลำบาก และอาจจำเป็นต้องใช้เวลาในแก้ไขปัญหานานถึง 3 ปี

ขณะที่ตลาดหุ้นของจีน ที่เคยมีปัญหานั้นก็ยังคงไม่มีใครที่จะยังตอบไม่ได้ว่า ฟองสบู่ในตลาดหุ้นของจีนนั้นแตกลงแล้วจริงๆ แล้วหรือยัง ซึ่งยังเป็นประเด็นให้ต้องจับตามองกันต่อไป ส่วนปัญหาในกรีซแม้ตลาดจะไม่มีความตึงเครียดถึงผลสรุปในการเจรจาระหว่างเจ้าหนี้ยูโร และลูกหนี้กรีซแล้วก็ตาม แต่เขาก็มองว่า ปัญหาของกรีซในเวลานี้เป็นเหมือนระเบิดเวลา และจะกลับมามีปัญหาอีกครั้งในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

ส่วนปัจจัยทางการเมืองในประเทศซึ่งมีข่าวคราวว่ารัฐบาลเตรียมที่จะปรับ ครม. โดยจะมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้าร่วมเป็นรัฐมนตรีใน ครม. ใหม่นั้น เขาก็มองว่า ดร. สมคิด น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี และสามารถสร้างสีสันให้แก่ตลาดได้แม้จะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ก็ตาม เนื่องจากในระยะยาวแล้วนักลงทุนต่างก็ต้องการที่จะเห็นถึงความชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการทำประชามติจากภาคประชาชนเพื่อเปิดทางให้รัฐบาลปัจจุบันจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ได้ทันภายในปีหน้า

นายชัยพร ยังมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากรัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนในการผลักดันนโยบายการเปิดประมูล 4G ที่จะเริ่มต้นได้ในเดือน พ.ย. นี้ เนื่องจากทั้งภาคธุรกิจผู้ให้บริการระบบ 4G ต่างมีความพร้อมที่จะเข้าลงทุน ขณะเดียวกัน บรรดาธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ก็พร้อมที่จะปล่อยกู้เพื่อการนี้แล้ว เขาจึงคาดหวังว่าเมื่อเริ่มมีการลงทุนใหม่ๆ ในระบบ 4G แล้ว เศรษฐกิจไทยในปีหน้าคงจะเริ่มดีขึ้น

ขณะที่ นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส มีแนวโน้มปรับลด EPS ปี 2558 ราว 4% ซึ่งจะทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ หรือ SET Index มีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลง ประกอบกับการที่เศรษฐกิจในประเทศยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากตัวแปรที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างภัยแล้ง ซึ่งส่งผลให้สำนักเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจภาคการเกษตรเป็นครั้งที่ 2 ของปี 2558 โดยปรับลดลงจากต้นปีที่ประเมินไว้ว่าจะเติบโต 2.5-3% เป็นหดตัว 3.3-4.3% เมื่อเทียบกับปี 2557 และคาดว่าจะกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือ GDP Growth โดยรวมราว 0.4-0.5% ซึ่งน่าจะทำให้นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักปรับลดประมาณการ GDP Growth ลง

“เรายังมีภาวะซ๊อคเศรษฐกิจที่อาจคาดไม่ถึงอีกทั้งภายในประเทศ และนอกประเทศ โดยเฉพาะภัยแล้ง และการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งปรับขึ้นแน่ๆ ทำให้คาดว่าสภาพคล่องจะยิ่งหายออกไปจากตลาดหุ้นไทย เพราะทุกวันนี้ต่างชาติก็ขายทิ้ง และไม่มีทีท่าจะกลับมาลงทุน อีกทั้งหุ้นในกลุ่มพลังงานก็ยังคงเคลื่อนไหวผันผวนตามกระแสราคาพลังงานในตลาดโลก ทำให้นักลงทุนไม่มีความมั่นใจที่จะเข้ามาลงทุน ประกอบกับการที่ผลประกอบการไตรมาส 2/58 ซึ่งหลายคนประเมินว่าจะแย่ ยังออกมาแย่กว่าที่เราประมาณการไว้ ทำให้อาจมีการพิจารณาปรับลดทั้งกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน และเป้าดัชนีฯ สิ้นปีที่อาจเหลือแค่ 1,420 จุดเท่านั้น”

นายประกิต คาดการณ์ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญต่อแรงกดดัน ทำให้ดัชนีน่าจะเคลื่นอไหวในกรอบ 1,460-1,497 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นลงทุนในรายหุ้น โดยเฉพาะหุ้นที่มีผลกำไรที่โดดเด่นในไตรมาส 2/58-3/58 ได้แก่ หุ้นส่งออก เนื่องจากได้รับประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า เช่น HANA, KCE, TUF หุ้นในประเทศที่ได้แรงหนุนจากการก่อสร้างภาครัฐ TASCO, CK หุ้นมีภูมิคุ้มกันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่าง THCOM, BTS

ด้าน นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต ระบุว่า ระบบเศรษฐกิจในประเทศขณะนี้ขับเคลื่อนด้วยภาคการท่องเที่ยว รวมถึงจิตวิทยาที่ภาครัฐกำลังเร่งผลักดันการลงทุนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั้งมอเตอร์เวย์ และการก่อสร้างรถไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ดัชนีฯ ยังคงซึมซับข่าวแนวโน้มกำไรบริษัท บจ. ซึ่งภาพรวมกำไรอาจไม่ค่อยดี ส่งผลให้เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 1,470-1,484 จุด

“ปัจจุบันภาคท่องเที่ยวนำเงินตราเข้าประเทศทะลุ 10% ของ GDP ไปแล้ว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยภาคการส่งออกที่หดตัว ทั้งนี้ ฝ่ายกลยุทธ์ฯ อยู่ระหว่างศึกษาเตรียมปรับลดประมาณการดัชนีฯ สิ้นปีลงเหลือ 1,480 จุด ตามภาพรวมผลกำไร บจ.ที่ลดลง”

**ทองคำร่วงต่ำสุดรอบ 5 ปี**

นายวรุต รุ่งขำ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส สรุปความเคลื่อนไหวราคาทองคำวันที่ 20 กรกฎาคม 2558 ว่าราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,088.85-1,132.95 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 300 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 18,300 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 360 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,660 บาท

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงจะมาจากถ้อยแถลงของ นางเจเนต เยเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED ต่อรัฐสภาสหรัฐอเมริกา ที่ระบุจะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลกดดันราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยราคาทองคำปิดตลาดในสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งปิดรายสัปดาห์ใกล้ระดับต่ำสุดของปี 2013 ในโซน 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์

“ในช่วงเช้าวันจันทร์ของตลาดเอเชียแรงเทขายทองคำมีออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อราคาไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวรับดังกล่าวได้ ส่งผลให้ราคาดิ่งลงอย่างมากในทันทีจนทดสอบระดับ 1,088 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2010”

สำหรับราคาทองคำถูกกดดันจากดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินแข็งค่าขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 3 เดือน หลังจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นในเดือนมิถุนายน เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน ตัวเลขภาคที่อยู่อาศัยยืนยันความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนกัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบ 8 ปี ข้อมูลดังกล่าวสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ขณะที่คณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ของสหรัฐฯ รายงานว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และบริษัทจัดการกองทุนปรับลดสถานะซื้อสุทธิในสัญญาทองคำในตลาด Comex ลงในช่วงสัปดาห์ปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และปรับลดลงสู่สถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ ปรับลดสถานะซื้อสุทธิในสัญญาล่วงหน้า และออปชันทองคำลง 2,941 สัญญา สู่ระดับ 4,633 สัญญา ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งสะท้อนมุมมองเชิงลบของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และบริษัทจัดการกองทุนในตลาด Comex นายวรุต แนะนำให้ดูการสร้างฐานของราคาทองคำเหนือแนวรับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถตั้งฐานได้ ยังมีโอกาสเห็นการดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,120-1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์


กำลังโหลดความคิดเห็น