เผยข่าวดีกรีซช่วยตลาดเงินตลาดทุนโลกพ้นความเสี่ยง คาดระยะยาวเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทย

นักเศรษฐศาสตร์ ธ.สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ส เชื่อกรีซบรรลุผลเจรจาเจ้าหนี้ ถือเป็นข่าวดีต่อตลาดเงินตลาดทุนโลกพ้นความเสี่ยง คาดผลในระยะยาวเม็ดเงินจะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น ส่วนดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

นางสาวอุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ส กล่าวว่า การที่กรีซสามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ถือเป็นข่าวดี ที่จะทำให้ปัจจัยเสี่ยงของตลาดเงินตลาดทุนโลกคลี่คลาย และจะทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตลาดหุ้นมากขึ้น โดยเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลดีจากกระแสเงินทุนต่างชาติครั้งนี้ เพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับที่ผ่านมา การลงทุนของต่างประเทศที่ค้างสุทธิในตลาดหุ้นไทยมีน้อย ซึ่งขณะนี้สิ่งที่นักลงทุนต่างชาติติดตาม คือ การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย หากมีสัญญาณว่า จีดีพีปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าเพิ่มขึ้น เพราะช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยเติบโตเฉลี่ยเพียงร้อยละ 2.5 ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเติบโตประมาณร้อยละ 4 โดยระยะสั้นตลาดพันธบัตรจะโดดเด่น แต่ระยะกลางถึงยาวเม็ดเงินจะไหลเข้าตลาดหุ้นมากกว่า โดยคาดการณ์ว่า จีดีพีทั้งปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 แต่หากการลงทุนภาครัฐเร่งตัวได้ในช่วงไตรมาส 4 ก็จะทำให้จีดีพีทั้งปีปรับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.5-4

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่กรีซบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้กลุ่มยูโร เชื่อว่า หลังจากนี้ตลาดทุนโลกจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะนักลงทุนรู้สึกดีขึ้น ตลาดทุนไทยก็จะได้รับอานิสงส์ด้วย แต่จะขยับอยู่ในกรอบแคบๆ เพราะปัจจัยลบ ทั้งภัยแล้ง การส่งออก และการเบิกจ่ายงบประมาณไม่ได้ตามเป้าหมายยังคงมีอยู่

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเดือนกรกฎาคม 58 อยู่ที่ 98.28 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.48 จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ 88.16 สะท้อนว่า ความเชื่อมั่นอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดัชนียังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว โดยปัจจัยลบ คือ สถานการณ์ต่างประเทศ ปัญหาหนี้กรีซ แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนปัจจัยบวกมาจากนโยบายของภาครัฐ โดยนักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นน้อยสุดอยู่ที่ 71.43 อยู่ในเกณฑ์ซบเซา