xs
xsm
sm
md
lg

“เอเซีย พลัส” เผย 5 เดือนแรกปีนี้กลุ่มยานยนต์ปรับลดลง 1.1% คาดฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากอินเตอร์เน็ต
บล.เอเซีย พลัส เผยตัวเลขกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 5 เดือนแรกของปีนี้ลดลงกว่า 1.1% คาดการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตในปี 2559 ซึ่งจะทำให้ราคารถยนต์ใหม่ปรับตัวสูงขึ้น น่าจะช่วยหนุนให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศช่วงครึ่งหลังของปี โดยรวมยังคงประมาณการเดิมคาดยอดผลิตรถยนต์ปี 2558 ที่ 2.1 ล้านคัน เติบโต 11.7%

น.ส.นวลพรรณ น้อยรัชชุกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ ASP กล่าวว่า จากรายงานยอดผลิตรถยนต์ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เดือนพฤษภาคม 2558 มีจำนวน 136,617 คัน เพิ่มขึ้น 10.2% เทียบกับช่วงเดียวกันของเดือนนี้กับเดือนก่อนหน้า แต่ลดลง 7.82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว ส่งผลให้ยอดผลิตรถยนต์รวมช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 783,553 คัน ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว

อย่างไรก็ดี เนื่องจากในไตรมาส 2/2558 นอกจากจะมีวันหยุดยาวกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้ว ยังเป็นช่วงของการผลัดเปลี่ยนโมเดลของรถกระบะรุ่นใหม่จากค่าย Toyota (ซึ่งมีสัดส่วน 18.7% ของยอดขายในประเทศ และ 27.3% ของยอดส่งออกในปี 2557) ทำให้ยอดขายโมเดลเก่าของรุ่นดังกล่าวลดลงทั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคทั่วโลกชะลอการตัดสินใจซื้อเพื่อรอซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนพฤษภาคม 2558 อยู่ที่ 56,939 คันลดลง 18.3% เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว เช่นเดียวกับภาคการส่งออกที่พลิกกลับมาหดตัว 6.17% เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดส่งออกรถกระบะหลักของไทย จึงกดดันให้ยอดผลิตรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 136,617 คัน ลดลง 7.82% เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว ทำให้ภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ 5 เดือนแรกของปีนี้มียอดผลิตรถยนต์รวมทั้งสิ้น 783,553 คัน ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว (โดยมียอดขายในประเทศรวม 308,783 คัน ลดลง 15.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว แต่ยอดส่งออกรถยนต์รวม 499,299 คัน เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว)

ทั้งนี้ มองว่าผลกระทบดังกล่าวยังไม่น่ากังวล และน่าจะเห็นอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาฟื้นตัวอย่างเด่นชัดในครึ่งปีหลัง สอดคล้องต่อปริมาณการผลิตรถยนต์ที่สูงขึ้น หลังรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ช่วงของการผลิตอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตในปี 2559 ซึ่งจะทำให้ราคารถยนต์ใหม่ปรับตัวสูงขึ้น น่าจะช่วยหนุนให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศช่วงครึ่งหลังของปีปรับตัวสูงขึ้นได้เมื่อบวกกับภาคการส่งออกรถยนต์ที่ยังเติบโตได้ดี ทำให้โดยรวมยังคงประมาณการเดิมคาดยอดผลิตรถยนต์ปี 2558 ที่ 2.1 ล้านคัน เติบโต 11.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มยานยนต์งวดไตรมาส 2 ยังไม่สดใส แต่คาดว่าจะเห็นการพลิกกลับมาเติบโตอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง หลังการเริ่มผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างเต็มที่ หนุนให้อัตราการใช้กำลังการผลิตสูงขึ้น โดยคาดกำไรกลุ่มฯ ปี 2558 เท่ากับ 4,000 ล้านบาท เติบโต 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว ให้น้ำหนักการลงทุนเท่ากับตลาด โดยเลือก SAT (FV@B22) เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ จากปริมาณออเดอร์ในมือสูง ทั้งจากรถกระบะรุ่นใหม่ รถเทรกเตอร์ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งคาดหนุนยอดขายและกำไรเติบโตโดดเด่น ส่วนหุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ AH (FV@B16.4) ด้วยราคาปัจจุบันเทียบเท่า PBV เพียง 0.76 เท่า และ PER 9.4 เท่า และ IRC (FV@19.45) ซึ่งได้รับประโยชน์จากราคายางที่ต่ำกว่าปีก่อน ช่วยหนุนให้รายได้ปรับตัวสูงขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น