xs
xsm
sm
md
lg

แนะกลยุทธ์ให้ทยอยเก็บหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี และมี Valuation ถูก พร้อมเน้นกลุ่ม Dividend yield สูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.เอเชีย เวลท์ ยังให้น้ำหนักปัจจัยกรีซ และการขึ้น ดบ. ของเฟด อาจส่งผลกดดันต่อทิศทางหุ้นในสัปดาห์นี้ แนะให้ทยอยเก็บหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มี Valuation ถูก โดยเน้นหุ้นที่มี Dividend yield สูง เพื่อให้มีเงินปันผลมาชดเชยในช่วงที่หุ้นยังอ่อนแออยู่ และเรายังมีหุ้นดีอยู่ในมือ โดยทยอยรับ ไม่ไล่ราคา

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อภาวะตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นปัจจัยหนี้สินของกรีซ ซึ่งกรีซยังคงไม่ชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จำนวน 300 ล้านยูโร ที่ครบกำหนดชำระเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยจะไปชำระรวมทีเดียว จำนวน 1.6 พันล้านยูโร สิ้นเดือนนี้

ขณะเดียวกัน กรีซยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ และน่าจะตกลงกันยาก เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีกรีซ คนปัจจุบัน ได้รับเลือกตั้งเนื่องจากมีนโยบายหลักว่า จะไม่ยอมรับเงื่อนไขของเจ้าหนี้ที่ให้กรีซขายรัฐวิสาหกิจ ลดค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ และตัดทอนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า กรีซ จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งฉุกเฉินขึ้นมาในระยะเวลาไม่นานนี้ เพื่อดูว่าประชาชนกรีซจะยังคงสนับสนุนรัฐบาลปัจจุบันที่ไม่ยอมรับเงื่อนไขเจ้าหนี้ให้อยู่ต่อไปหรือไม่

ดังนั้น ปัจจัยเรื่องกรีซ จะยังคงกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกตราบเท่าที่ยังไม่มีข้อยุติ ขณะที่การที่สหรัฐฯ จะปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดเดิม ยังกดดันตลาดหุ้นโลกอยู่เช่นกัน

ด้านปัจจัยในประเทศ วันที่ 10 มิถุนายน 2558 นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้น้ำหนักต่อตัวเลขการส่งออกค่อนข้างมาก ซึ่งการประชุมครั้งที่ผ่านมา กนง. ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปแล้ว

ทั้งนี้ บล.เอเชีย เวลท์ มีมุมมองว่า กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยอีกหรือไม่ยังไม่ชัดเจนนัก แต่หากมองจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอยู่ ซึ่งยังคงเป็นไปตามความต้องการของ กนง. ซึ่งหาก กนง. คงอัตราดอกเบี้ยก็จะไม่ได้กระทบต่อตลาด แต่หาก กนง. มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้อีก ก็น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการส่งออก ซึ่งจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มสินค้าเกษตร

กรณีดังกล่าวอาจทำให้เม็ดเงินลงทุนในหลักทรัพย์จากต่างประเทศจะไหลเข้าน้อยลง เนื่องจากอาจจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนได้ ซึ่ง SET Index อาจจะโดนกระทบจากการที่ต่างชาติไม่เข้าซื้อเพิ่ม และการขายออกของต่างชาติ แต่นักลงทุนในประเทศจะเข้ามาลงทุนมากขึ้น เนื่องจาก Sentiment ของตลาดดี ทำให้โดยรวมมองว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ไม่ไปไหน

ด้านเทคนิคในสัปดาห์นี้ มองแนวรับสัปดาห์นี้ที่ 1,486 จุด และแนวต้านที่ 1,518 จุด สำหรับคำแนะนำการลงทุน หากมอง Flow การลงทุนของตลาดโลกที่มีการเทขายพันธบัตรออกมาเยอะและกองทุนทั้งหลายในโลกหันเข้ามาซื้อหุ้น แสดงให้เห็นว่าทั่วโลกมองว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มต้นที่จะฟื้นตัว และตลาดหุ้นน่าจะอยู่ในขาขึ้น แต่ยังถูกกดดันจากปัจจัยเรื่องกรีซ และการที่สหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ยปีนี้อยู่

ดังนั้น คำแนะนำของ บล.เอเชีย เวลท์ ต่อการลงทุนในช่วงนี้ คือ ให้ทยอยเก็บหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีที่มี Valuation ถูก โดยเน้นหุ้นที่มี Dividend yield สูง เพื่อให้มีเงินปันผลมาชดเชยในช่วงที่หุ้นยังอ่อนแออยู่ และเรายังมีหุ้นดีอยู่ในมือ โดยทยอยรับ ไม่ไล่ราคา เช่น ADVANC , INTUCH และ BTS รวมทั้งหุ้นที่ธุรกิจมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน หรือ Turnaround เช่น PTTGC , PTT และ WORK
เผยต่างชาติให้น้ำหนักหุ้นไทยน้อยต่อเนื่อง 3 ปีแล้ว นักลงทุนจับตาเสถียรภาพการเมือง
เผยต่างชาติให้น้ำหนักหุ้นไทยน้อยต่อเนื่อง 3 ปีแล้ว นักลงทุนจับตาเสถียรภาพการเมือง
ผู้บริหาร บลจ.วรรณ คาดมติ กนง. คงอัตรา ดบ. ในการประชุม 10 มิ.ย. นี้ แต่แนวโน้มยังมีโอกาสปรับลดได้อีกครั้ง เพราะเงินเฟ้อต่ำ ชี้ นลท. จับตาทางออกการเมือง หลังข้อเสนอทำประชามติ และปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง พร้อมขยายเวลาให้ รบ. บริหารประเทศต่ออีก 2 ปี ส่งผลดัชนีแกว่งตัว 1,480-1,550 จุด มองต่างชาติให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างน้อยต่อเนื่องมา 3 ปีแล้ว เห็นได้จากมูลค่าเทรดที่ลดลง คาดว่าในปีนี้ยังคงเป็นแรงขายสุทธิ 1 หมื่นล้าน โดยจับตาการฟื้นตัวของ ศก. และการดำเนินนโยบาย ศก. ของรัฐบาลเป็นหลัก
กำลังโหลดความคิดเห็น