xs
xsm
sm
md
lg

ศก.ต่ำคาด-แบงก์เข้มกนง.เผยเบื้องลึกบอร์ดฯปรับลดดบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวยัน - บอร์ด กนง.เผยเหตุผลปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ด้วยมติ 5 ต่อ 2 เสียง พบในปี 58 เศรษฐกิจไทยต่ำประเมินไว้ จึงจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินดูแลภาวะการเงินผ่อนคลายต่อเนื่องผ่านเครื่องมือเชิงนโยบายต่างๆ ที่มีอยู่ ถกเถียงกันมากขึ้นถึงขีดความสามารถในการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม ขณะเดียวกันพบคุณภาพสินเชื่อด้อยลงบ้างส่งผลให้แบงก์ระวังปล่อยกู้ลูกหนี้บางกลุ่ม

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ธปท.ได้เผยแพร่รายงการการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.(ฉบับย่อ) เป็นการประชุมครั้งที่ 3 ของปี 58 ซึ่งเป็นมุมมองเพิ่มเติมในที่ประชุมเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า กรรมการเห็นพ้องกันว่าเศรษฐกิจไทยในปี 58 จะขยายตัวในอัตราต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ และมีความจำเป็นที่นโยบายการเงินต้องดูแลให้ภาวะการเงินมีความผ่อนคลายต่อเนื่องผ่านเครื่องมือเชิงนโยบายต่างๆ ที่มีอยู่ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชนและประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า

“กรรมการคำนึงถึงขีดความสามารถในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม (policy space) ในภาวะที่ความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้าจากปัจจัยแวดล้อมทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีอยู่ จึงได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการใช้ policy space
ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด”ในรายงานดังกล่าวระบุและในระยะข้างหน้าภาคการส่งออกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นและส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนและบริโภคภาคครัวเรือนอ่อนแรงลง จึงอาจมีผลจำกัดภายใต้ภาวะที่กำลังการผลิตยังเหลือมากและการขยายตัวอุปสงค์อยู่ระดับต่ำ

บอร์ด กนง.ได้หารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพสินเชื่อในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ และอภิปรายถึงนัยต่อพัฒนาการเศรษฐกิจ โดยประเมินว่าคุณภาพสินเชื่อด้อยลงบ้างผลให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยกู้แก่ลูกหนี้บางกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญจากการประชุมครั้งก่อนเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา แม้สัดส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับที่ธนาคารพาณิชย์บริหารจัดการได้ อีกทั้งธนาคารพาณิชย์ยังมีการกันเงินสำรองในระดับสูงต่อเนื่อง

แรงกดดันเงินเฟ้อลดลงจากการชะลอตัวของอุปสงค์ในระบบเศรษฐกิจและต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง จึงมีแนวโน้มที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบต่อเนื่องนานขึ้น แม้ยังถือว่าเป็นภาวะเงินฝืด แต่การที่ราคาสินค้าจำนวนมากขึ้นมีแนวโน้มชะลอตัว และการคาดการณ์เงินเฟ้อปรับต่ำลงภายใต้การอ่อนแรงของอุปสงค์ ทำให้ความเสี่ยงของภาวะเงินฝืดในช่วงต่อไปเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากที่เคยประเมินไว้

ทั้งนี้ ในที่ประชุมกนง.ครั้งที่ผ่านมาได้มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลืออยู่ที่ 1.50%ต่อปี กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าควรผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนอย่างทันท่วงทีให้กับเศรษฐกิจ ขณะที่การชะลอปรับลดดอกเบี้ยอาจส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจล่าช้าออกไป นอกจากนี้ช่วยลดคาดการณ์เงินเฟ้อในภาวะอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจอยู่ระดับต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อนานขึ้น ลดต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจและครัวเรือน อีกทั้งช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนปรับสู่ระดับที่เอื้อต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจมากขึ้น

ขณะที่กรรมการ 2 คนเห็นควรให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ เพราะ Policy space มีจำกัด จึงควรสงวนไว้ใช้ในยามจำเป็น ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา การดำเนินนโยบายการเงินมีส่วนช่วยให้ภาวะกาเรงินผ่อนคลายมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดยังต้องใช้เวลาในการส่งผ่านไปสู่ภาคเศรษฐกิจจริง จึงควรรอประเมินผลต่อเศรษฐกิจและเสถียรภาพการเงินก่อนที่จะดำเนินการเพิ่มเติม อีกทั้งการลดดอกเบี้ยจากอยู่ระดับต่ำมานานมีส่วนเพิ่มความไม่สมดุลต่อเสถียรภาพการเงินผ่านพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า รวมถึงบั่นทอนพฤติกรรมการออมระยะยาวของภาคครัวเรือน.
กำลังโหลดความคิดเห็น