xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยรอเงินไหลเข้า Q1วอลุ่มสูงสุดอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปธ.ตลท.ตั้งเป้าเพิ่มวอลุ่มแตะ 1 แสนล้านบาทต่อวันภายในปี 2563 จาก 5.4 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน ด้าน “ก้องเกียรติ” มั่นใจการที่หลายประเทศดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ-ส่งออกไทย พร้อมคาดการณ์ กนง.มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลง
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ตลท.ตั้งเป้าหมายช่วง 5 ปีข้างหน้ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาท จากไตรมาส 1/58 อยู่ที่เฉลี่ย 54,000 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน นอกจากนี้ ตลท.ยังตั้งเป้าหมายมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม หรือ มาร์เก็ตแคป ในแต่ละปีเติบโตไม่น้อยกว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ หรือ GDP จากปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ของไทยที่มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 14.7 ล้านล้านบาท โดยจะเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งคุณภาพและปริมาณของบริษัทจดทะเบียนและนักลงทุน
“เชื่อมั่นว่า ตลท.จะสามารถผลักให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ แม้ขณะนี้ภาพรวมการลงทุนจะค่อนข้างผันผวน เนื่องจากปัจจุบันการซื้อขายของนักลงทุนส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่หุ้นกลุ่ม SET50 ซึ่งเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี” นายสถิตย์ กล่าว
ขณะที่นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธารกรรมการบริหาร บล.เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ ASP มองว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน หรือ (บจ.)ของไทยปีนี้จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 25% เมื่อเทียบกับฐานปีก่อนที่ติดลบไป 17% ซึ่งถือว่าเป็นฐานของผลประกอบการที่ค่อนข้างต่ำ ประกอบกับราคาน้ำมันผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และเศรษฐกิจที่ค่อยๆฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
“ทั้ง 2 ปัจจัยจะเป็นผลดีต่อการส่งออกของไทยด้วย ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำจะเป็นตัวช่วยหนุนให้ธุรกิจเช่าซื้อ และธนาคารให้เติบโต แต่อย่างไรก็ตามยังต้องระมัดระวังความเสี่ยงเรื่องของรากหญ้าที่เป็นประชากรหลักของประเทศ ที่ปัจจุบันยังฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า ขณะที่เงินทุนยังหมุนไปถึงเกษตรกรได้ค่อนข้างลำบาก” นายก้องเกียรติ กล่าว
CEO ASP คาดว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ กนง. ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 เม.ย.นี้ อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 1.75% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของไทยในปัจจุบันเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง
"ควรมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกในการประชุมกนง. ครั้งนี้ เพื่อที่จะให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ เพราะปัจจุบันเองถือว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆแล้ว ในขณะเดียวกันยังส่งผลให้ค่าเงินลดลงด้วย ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อีกทางหนึ่ง" นายก้องเกียรติ กล่าว
สำหรับแนวโน้มดัชนีหุ้นไทยหลังจากนี้ นายก้องเกียรติ ระบุว่ายังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ และความคืบหน้าของโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยหากประเด็นเหล่านี้มีความชัดเจน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเติบโตได้ทันกับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปก่อนหน้านี้ ก็จะดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติได้ เพราะปัจจุบันราคาหุ้นของประเทศหลักๆ อาทิเช่น ญี่ปุ่น ยุโรป และจีน ยังถือว่าค่อนข้างถูก เงินทุนทั่วโลกจึงไหลไปยังประเทศเหล่านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น