ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ กนง.ลดดอกเบี้ย หลังปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวอื่นง่อย รอภาครัฐพร้อมเบิกจ่าย ลุ้นแบงก์พาณิชย์ลดตามช่วยลดภาระลูกหนี้-ธุรกิจ ด้านค่าบาทอ่อนแตะ 32.95 พร้อมเตรียมปรับประมาณจีดีพี -ส่งออก
นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินลง 0.25% เหลือ 1.75% เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ทางคณะกรรมการมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยมากกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับปัจจัยอื่นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก หรือการเบิกจ่ายภาครัฐ ล้วนแต่มีโจทย์ที่ท้าทายอยู่จึงไม่สามารถมาเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยลดภาระหนี้หรือต้นทุนได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็รอการส่งต่อไปยังระบบธนาคารพาณิชย์อีกระยะหนึ่ง
“การลดดอกเบี้ยก็คงมีผลดันเศรษฐกิจได้ในวงจำกัด แต่เนื่องจากปัจจัยอื่นๆ อย่าง การส่งออก หรือการเบิกจ่ายยังขยับไม่ได้ ก็เหลือเพียงเครื่องมือเดียวคือดอกเบี้ย ก็ต้องทำ ต้องใช้ไปก่อน เพื่อรอให้ภาครัฐมีความพร้อมกว่านี้ในการที่จะเบิกจ่ายงบลงทุนออกมาได้ ขณะที่การส่งผ่านไปยังธนาคารพาณิชย์นั้น ก็คงจะต้องรอดูต่อไป ซึ่งปกติธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จะนำร่องลดดอกเบี้ยก่อน”
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยก็อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการเศรษฐกิจ โดยจะรอดูตัวเลขของเดือนกุมภาพันธ์ก่อน ซึ่งก็คงจะมีการปรับลดในส่วนของจีดีพีที่ประมาณการไว้ 4% เท่ากับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประมาณการส่งออก แต่ในส่วนของการลงทุนภาครัฐคงจะรอดูไปก่อน
บาทอ่อนแตะ 32.95
ด้านค่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงหลังจาก กนง.ประกาศลดดอกเบี้ย โดยปิดตลาดที่ระดับ 32.90-32.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.70-32.71 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยนักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์คาดว่าวันนี้เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ แต่คงจะไม่หลุดไปที่ระดับ 33 บาท โดยน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.80-33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินลง 0.25% เหลือ 1.75% เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า ทางคณะกรรมการมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยมากกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับปัจจัยอื่นที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก หรือการเบิกจ่ายภาครัฐ ล้วนแต่มีโจทย์ที่ท้าทายอยู่จึงไม่สามารถมาเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยลดภาระหนี้หรือต้นทุนได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็รอการส่งต่อไปยังระบบธนาคารพาณิชย์อีกระยะหนึ่ง
“การลดดอกเบี้ยก็คงมีผลดันเศรษฐกิจได้ในวงจำกัด แต่เนื่องจากปัจจัยอื่นๆ อย่าง การส่งออก หรือการเบิกจ่ายยังขยับไม่ได้ ก็เหลือเพียงเครื่องมือเดียวคือดอกเบี้ย ก็ต้องทำ ต้องใช้ไปก่อน เพื่อรอให้ภาครัฐมีความพร้อมกว่านี้ในการที่จะเบิกจ่ายงบลงทุนออกมาได้ ขณะที่การส่งผ่านไปยังธนาคารพาณิชย์นั้น ก็คงจะต้องรอดูต่อไป ซึ่งปกติธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่จะนำร่องลดดอกเบี้ยก่อน”
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยก็อยู่ระหว่างทบทวนประมาณการเศรษฐกิจ โดยจะรอดูตัวเลขของเดือนกุมภาพันธ์ก่อน ซึ่งก็คงจะมีการปรับลดในส่วนของจีดีพีที่ประมาณการไว้ 4% เท่ากับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประมาณการส่งออก แต่ในส่วนของการลงทุนภาครัฐคงจะรอดูไปก่อน
บาทอ่อนแตะ 32.95
ด้านค่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงหลังจาก กนง.ประกาศลดดอกเบี้ย โดยปิดตลาดที่ระดับ 32.90-32.95 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.70-32.71 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
โดยนักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์คาดว่าวันนี้เงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าได้ แต่คงจะไม่หลุดไปที่ระดับ 33 บาท โดยน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.80-33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ