มาสเตอร์ แอด เผยผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้โต 40% เทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ หลังค่าใช้จ่ายการดำเนินงานลดลงจากการดำเนินกลยุทธ์ผนึกกำลัง VGI มาช่วยขายสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยให้ ส่งผลให้ความสามารถในการบริหารต้นทุนด้านการบริหารสื่อโฆษณาดีขึ้น ด้านผู้บริหารมองแนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยกระเตื้องขึ้น หลังภาครัฐเร่งปลุกเศรษฐกิจหนุนความเชื่อมั่นเอกชน คาดปีนี้ทำยอดขายเติบโตตามเป้า
นายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ผู้นำในด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยครบวงจรของไทย (The Leader in Creative & Innovative OHM Solutions Provider) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/58 (มกราคม-มีนาคม) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ที่มีกำไรสุทธิ 30 ล้านบาท และมีรายได้รวม 167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6% เทียบกับไตรมาส 4/57 ที่มีรายได้ 158 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งการดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยของ MACO ที่ยังผลักดันการเติบโตได้เป็นที่น่าพอใจ แม้ในยามภาวะเศรษฐกิจยังชะลอตัว ส่งผลให้การใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาไม่เติบโตตามที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนการบริหารสื่อโฆษณาได้อย่างประสิทธิภาพมาก หลังจาก MACO ได้แต่งตั้งให้ VGI เป็นตัวแทนขายสื่อโฆษณาสำหรับสื่อโฆษณาบนถนน (Street Furniture) และสื่อบริเวณสถานีขนส่ง และยานพาหนะ (Transit) โดยได้ทำสัญญารายได้ขั้นต่ำทำให้ MACO มีรายได้ที่แน่นอน และยังลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการขายลงได้อีกด้วย
“เราพอใจต่อผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก ยังสามารถรักษาการเติบโตที่ดีเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้านี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของไทยยังชะลอตัว และเอเยนซียังระมัดระวังการใช้เงินซื้อสื่อโฆษณา แต่เรายังรักษาการเติบโตได้ดี โดยเป็นผลมาจากการบริหารจัดการด้านต้นทุนการขายที่มีประสิทธิภาพ และการรุกขยายสื่อใหม่ๆ ของเราเพิ่มเติมที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า” นายนพดล กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MACO กล่าวว่า ภาพรวมไตรมาส 2/58 บริษัทฯ มองว่าจะยังคงรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากการรุกขยายสื่อโฆษณาในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.-จีฟฟี่ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาจองพื้นที่โฆษณาเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับป้ายโฆษณากลางแจ้งของ MACO ที่ขณะนี้ได้ลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาจับจองพื้นที่โฆษณากันมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ ที่พบว่า ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา เริ่มใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาเพื่อซื้อสื่อป้ายโฆษณากลางแจ้ง หลังจากอัตราดอกเบี้ยลดลงทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้เร่งสื่อสารแคมเปญกิจกรรมการตลาด และโปรโมชันมากขึ้น ขณะเดียวกัน การเร่งการใช้จ่ายด้านการลงทุนของภาครัฐต่อจากนี้ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชนกล้าลงทุนและสินค้าอุปโภคบริโภค พร้อมเพิ่มเม็ดเงินซื้อสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
“เรามองว่าสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยในช่วงที่เหลือของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสของ MACO ที่มีจุดแข็งด้านความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมสื่อโฆษณา เพื่อรุกธุรกิจรองรับการใช้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย โดยตั้งเป้าปีนี้จะทำรายได้เติบโตตามเป้าที่วางไว้” นายนพดล กล่าว
