xs
xsm
sm
md
lg

“MACO”เล็งสื่อตลาดAEC ลุยดิจิตอล-เพิ่มพื้นที่20%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “MACO” เล็งบุกตลาดเออีซี แย้มต้องร่วมทุน เผยเป้าหมายในไทยปี58 ต้องขยายพื้นที่โฆษณารวม 100,000 ตารางเมตร จากเดิม 80,000 ตารางเมตร พร้อมทุ่มงบลงทุน 400 ล้านบาท ลุยสื่อดิจิตอลปีนี้ หวังดันรายได้โต 15%
นายนพดล ตัณศลารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO เปิดเผยว่า บริษัทฯมีนโยบายในการขยายธุรกิจทั้งในไทยและในต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายการเปิด ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ เออีซี ปี 2558 นี้ ซึ่งบริษัทฯเองก็มีความสนใจ ซึ่งที่ผ่านมาได้มี การศึกษาตลาดมาตลอด ซึ่งแต่ละประเทศ ก็มีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของกฎหมาย ตลาดรวม พฤติกรรมผู้บริโภค หรือแม้แต่ สภาพเศรษฐกิจ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ต้องหาพันธมิตรท้องถิ่นหรือโลคอลพาร์ทเนอร์ในการทำธุรกิจด้วยกัน
“ การทำธุรกิจในต่างประเทศไม่ใช่ง่ายอย่าง ที่เราคิด เราต้องหาพันธมิตรทุกประเทศ ตอนนี้เรายังไม่ได้ลงทุนอะไร เช่น ที่มาเลเซีย ตลาดใกล้เคียงกับไทย ทั้งเรื่องกฎหมายระ เบียบต่างๆ รวมทั้งลักษณะการซื้อสื่อด้วย ส่วนที่กลุ่มซีแอลเอ็มวีนั้น คิดว่าเป็นตลาด ที่เหนื่อย “
สำหรับตลาดในเมืองไทย ปีนี้บริษัทฯวางงบ ลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท โดยมีเป้า หมายในปี 2558 จะต้องมีพื้นที่โฆษณาของ บริษัทฯ 100,000 ตารางเมตร จากขณะนี้ที่มีรวม 80,000 ตารางเมตร หรือเพิ่ม 20% และคาด หวังรายได้เติบโต 15% จากปีที่แล้วที่มีรายได้ รวมประมาณ 622 ล้านบาท กำไรสุทธิ 133 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดหวังการเติบโต 15%
ทั้งนี้ธุรกิจจะมาจาก 2 กลุ่มหลักคือ 1.มาโก้สเปซ (MACO SPACE) คือพื้นที่ โฆษณาของ บริษัทฯเองทั้งจากสัมปทาน ของรัฐและเอกชน ที่ประกอบด้วย 1.สื่อบิล บอร์ดหรือป้ายโฆษณา ขนาดใหญ่ ขณะนี้มีมากสุด 60,000 ตารางเมตร ประมาณ 200 ป้าย ขนาดใหญ่สุดยาว 100 เมตร เล็กสุดยาว 20 เมตร 2.สื่อสตรีทเฟอร์ นิเจอร์ และ 3. สื่อเคลื่อนที่ และจะเพิ่มธุรกิจใหม่ คือ 4.สื่อดิจิตอล
ส่วนกลุ่มที่ 2 คือ นอน-มาโก้ ( NON MACO) ซึ่งกลุ่มนี้เริ่มทำ 2-3 ปีแล้ว อยู่ในช่วงเริ่มต้น คือ 1.เมดทูออร์เดอร์ ทำตามที่ลูกค้าต้องการเป็นงานเฉพาะ 2.งานอีเวนต์ โดยใช้สื่อของบริษัทฯเข้ามา สนับสนุน 3.โอเอชเอ็ม ที่ใช้เทคโนโลยี เข้ามาผนวกการทำงาน การรับรู้ ซึ่งลักษณะ งานในกลุ่มที่ 2 นี้ ยังมีสัดส่วนรายได้น้อย มากเพียง 10%
สำหรับธุรกิจสื่อใหม่ที่จะเริ่มชัดเจนปีนี้คือ ดิจิตอล ซึ่งจะนำเอาสื่อบิลบอร์ดขนาดใหญ่ ที่มีอยู่และมีความเหมาะสมทั้งทำเลและขนาดมาปรับเป็นสื่อดิจิตอล คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณ 5 จุดก่อน
นายนพดลกล่าวต่อถึงพื้นที่โฆษณาที่ได้สิทธิ์ในปั๊มน้ำมันจิฟฟี่เดิมที่เปลี่ยนเป็น ปั๊มปตท.แล้วว่า ปีนี้จะทำการจัดหมวดหมู่ใหม่ อาจจะนำเอาสื่อ โฆษณาจิฟฟี่ไปอยู่ในกลุ่มของสื่อทรานซิท เนื่องจากเป็นทำเลที่มีการคมนาคมการขนส่ง ซึ่งมี 147 แห่ง ตามแผนบริษัทฯจะติดตั้งป้าย โฆษณาแบบใหม่รวม 300 กว่าป้าย แบ่งเป็น 2 ป้ายต่อปั๊ม รวมกว่า 1,800 ตารางเมตร คาดว่าเดือนมีนาคมจะเริ่มดำเนินการทยอยติดตั้งได้ ขนาด มินิบิลบอร์ด 2 คูณ 3 เมตร เป็นกล่องไฟ ลงทุนรวมประมาณ 30 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าหลายรายที่มีความสนใจ ซึ่งหากลูกค้าซื้อเป็นแพคเกจๆละ 50 ป้าย อย่างนี้เพียง 6 รายก็ขายหมดแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว บริษัทฯลงทุนประมาณ 200 ล้านบาท เนื่องจากทางบอร์ดบริษัทฯต้องการ ให้การลงทุนแต่ละครั้งออกมาแล้วได้รับผลตอบแทนที่ดี และมีคุณภาพ จึงค่อนข้างที่จะคอน เซอร์เวทีฟในการลงทุน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯเองมีสถานะทางการเงินที่ดีและพร้อมที่จะลงทุนทันที หากมีโครงการที่ดีและมี ความเหมาะสม เพื่อสร้างความยั่งยืนและการ เติบโตของบริษัทฯ
“ก่อนหน้านี้เราเคยขอมติบริษัทฯออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาท ไปแล้ว แต่เราก็ขอยืดหุ้นกู้ ออกไปก่อน ซึ่งถ้าจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจริงๆ เราก็มีสต๊อกไว้ 1,000 ล้านบาท ที่สามารถจะลง ทุนได้ในช่วง 2-3 ปีนี้อย่างสบายๆซึ่งที่ผ่านมา ที่เราลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นสัดส่วนกระแส เงินสด 20% และเงินกู้ 80%
อย่างไรก็ตาม จะมีการร่วมทุนหรือ เทคโอเวอร์ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่นั้น นายนพดลให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องของอนาคต ไม่สามารถตอบได้ ที่ผ่านมาที่เราร่วมมือกับ ทางบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (มหาชน) โดยวีจีไอเข้ามาถือหุ้นในบริษัทมาโก้ 24% นั้นถือว่าสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างมาก และมีการแยกตลาดกันชัดเจนคือ วีจีไอทำตลาด ในส่วนของสื่อบนรถไฟฟ้ากับสื่อในไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่วนที่เหลือมาโก้ดำเนินการทั้งหมด
ล่าสุดบริษัทฯได้แต่งตั้งนายณรงค์ ตรีสุชน ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ทางด้านมีเดียอย่างดี
กำลังโหลดความคิดเห็น