หลักทรัพย์บัวหลวงเผยแผนงานปี 2558 มุ่งเป็น Broker of choice ให้บริการการลงทุนระดับพรีเมียมแก่ลูกค้าทุกประเภทและครอบคลุมทุกภูมิภาค เดินหน้าออกนวัตกรรม เครื่องมือ และผลิตภัณฑ์หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางการลงทุนของลูกค้า พร้อมเดินสายให้ความรู้นักลงทุนต่อเนื่อง สานต่อวิสัยทัศน์การสร้างสังคมการลงทุนคุณภาพอย่างยั่งยืน
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2558 ว่าหลักทรัพย์บัวหลวงยังคงตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายฐานนักลงทุนให้ครอบคลุมลูกค้าทุกประเภท มุ่งต่อยอดกลยุทธ์ด้านความเป็นผู้นำนวัตกรรมและการเป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อการลงทุน ด้วยการผลักดันบริการด้านการลงทุนใหม่ๆ ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะบริการด้านออนไลน์เพื่อรองรับพฤติกรรมของนักลงทุนยุคใหม่ และยังเน้นการให้ความรู้ลูกค้าและนักลงทุนทั่วไปทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์อย่างเข้มข้น เพื่อบริการการลงทุนแบบพรีเมียมที่จะช่วยยกระดับความไว้วางใจที่ได้รับจากลูกค้าอย่างดีมาตลอด สำหรับผลประกอบการปี 2557 หลักทรัพย์บัวหลวงมีรายได้ 3,057 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,004 ล้านบาท จากปี 2556 ที่มีรายได้ 3,313 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,188 ล้านบาท
“เนื่องจากปัจจุบันเราพบว่าลูกค้าพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ที่มีบริการครบเครื่องและเหมาะกับพฤติกรรมการลงทุนของตัวเองมากขึ้น หลักทรัพย์บัวหลวงจึงมุ่งพัฒนาบริการการลงทุนคุณภาพที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกประเภท นั่นถือเป็นจุดแข็งและจุดขายของหลักทรัพย์บัวหลวง ที่ทำให้เราข้ามผ่านสภาวะการแข่งขันของธุรกิจนี้ไปได้อย่างมั่นคงตลอดมา เพราะเป้าหมายหลักของเราไม่ใช่ส่วนแบ่งตลาด แต่เราต้องการเป็น Broker of choice ที่เป็น Premium Broker ที่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่คิดในการลงทุนที่ลูกค้าไว้วางใจใช้บริการ ปัจจุบัน เราเป็นผู้นำนวัตกรรมการลงทุนที่หลากหลายสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ตลอดจนการเป็นผู้นำด้านการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาลูกค้าให้เป็นนักลงทุนคุณภาพ ซึ่งเมื่อเสริมกับจุดแข็งในเรื่องความมั่นคง ความน่าเชื่อถือ ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ทำให้หลักทรัพย์บัวหลวงสามารถขยายฐานนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่องและมีผลการดำเนินงานที่เติบโตสม่ำเสมอและยั่งยืน” นายพิเชษฐ กล่าว
“ที่หลักทรัพย์บัวหลวง เราจะคิดเสมอว่าทำอย่างไรให้ลูกค้าเราได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีในระยะยาว จึงพยายามอย่างเต็มที่ในการพัฒนานวัตกรรม ให้ความรู้ด้านการลงทุนต่างๆ เพื่อให้ตลาดทุนไทยมีนักลงทุนคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ และให้ทุกฝ่าย ทั้งลูกค้า นักลงทุนและพนักงานเราเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์หลักของหลักทรัพย์บัวหลวงที่เน้นสร้างสังคมการลงทุนอย่างมีคุณภาพ” นายพิเชษฐ เสริม
“จากการที่หลักทรัพย์บัวหลวงมีผลิตภัณฑ์ บริการ ตลอดจนนวัตกรรมทางการเงินครบวงจรสำหรับนักลงทุนทุกประเภท ทำให้เราสามารถให้บริการลูกค้าได้หลากหลายและครอบคลุม ทั้งการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์บุคคลและสถาบัน ธุรกิจวาณิชธนกิจ และในปีนี้หลักทรัพย์บัวหลวงได้แยกธุรกิจจัดการกองทุนออกมาเป็น “บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบางกอกแคปปิตอล จำกัด” เพื่อเตรียมรองรับธุรกิจใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีการบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมประมาณ 22,000 ล้านบาท” นายพิเชษฐกล่าว
ในส่วนของแผนธุรกิจและกิจกรรมการตลาดของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เผยว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา หลักทรัพย์บัวหลวงได้รับความไว้วางใจเป็น Broker of Choice ของนักลงทุนมาโดยตลอด เห็นได้จากฐานลูกค้าของบริษัทที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและมากที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่เห็นคุณค่าในบริการการลงทุนแบบพรีเมียมของบริษัท ทั้งนี้ ฐานลูกค้าที่ขยายตัวนั้น เป็นผลจากลูกค้าเล็งเห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนานวัตกรรมการลงทุน (Innovation) และการให้ความรู้ (Education) พร้อมคำแนะนำการลงทุนที่มีประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ โดยในปีนี้จะยังคงเน้นการบริการลูกค้าอย่างเข้มข้นและครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินสายให้ความรู้แก่นักลงทุน โดยในปีที่ผ่านมา หลักทรัพย์บัวหลวงได้ขยายสาขาเป็นฮับในจังหวัดหลักๆ เพื่อให้บริการลูกค้าในจังหวัดใกล้เคียงได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยได้เปิดสาขาที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นเมืองท่ารองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อให้บริการครอบคลุมลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนมากขึ้น
สำหรับธุรกิจการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants) หรือ DW นั้น หลักทรัพย์บัวหลวงสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งทั้งด้านมูลค่าการซื้อขายและจำนวนการถือครอง DW ต่อเนื่องมา 4 ปีแล้ว และได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในฐานะที่เป็นผู้ออกตราสารที่มีความน่าเชื่อถือ และมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้ง call และ put ตลอดจนการดูแลสภาพคล่องที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ ลูกค้ายังให้ความไว้วางใจจากการเป็นบริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือและมีความมั่นคงทางการเงินด้วย
“ปัจจุบัน ฐานลูกค้ารวมของหลักทรัพย์บัวหลวง คิดเป็น 15% ของจำนวนผู้มีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์รวม และลูกค้าที่มีการซื้อขายในแต่ละเดือนคิดเป็น 18% ของยอดรวมทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งนับว่าสูงมากในแง่ที่เรามีส่วนในการให้บริการลูกค้า โดยลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ทำให้หลักทรัพย์บัวหลวง มีอัตราการเติบโตที่ดีสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ทำให้ในปีที่แล้วเรามีส่วนแบ่งตลาด 5.25% อยู่ในอันดับ 4 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปี 2555 ที่มีส่วนแบ่ง 4.16% อยู่ในอันดับ 10 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของเราที่ต้องการพัฒนาตลาดทุนซึ่งไม่เพียงแต่การขยายฐานนักลงทุนแต่เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการให้ความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้องด้วย โดยในปีที่ผ่านมา เราได้จัดสัมมนาให้ความรู้แก่นักลงทุนกว่า 70 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมการอบรมกว่า 3,000 ราย ปีนี้เราคาดว่าจะมีลูกค้าใหม่เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ประมาณ 3 หมื่นบัญชี หรือเพิ่มขึ้น 20% จากสิ้นปีก่อนที่มีบัญชีลูกค้าประมาณ 1.5 แสนบัญชี โดยเรามองว่าฐานลูกค้ายังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก เพราะปัจจุบันบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบมีประมาณ 1 ล้านบัญชี ซึ่งยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับประชากรของประเทศ แต่การตัดสินใจเข้าเริ่มการลงทุนมักจะขึ้นกับภาวะตลาดฯ เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม เรายังคงดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการผลักดันนวัตกรรม บริการ และการให้ความรู้ด้านการซื้อขายระบบออนไลน์อย่างเข้มข้น โดยเรามีการจัดตั้ง “Bualuang Investment Station” พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้คำแนะนำ และบริการลูกค้าระบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้เพื่อการลงทุน ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงเป็นผู้นำด้านการให้ความรู้แก่ผู้ลงทุนเป็นรายแรกในอุตสาหกรรม ตามนโยบายเปลี่ยนห้องค้าเป็นห้องเรียนการลงทุนของเรา” นายบรรณรงค์ กล่าว
นายบรรณรงค์ กล่าวเสริมว่า ปีนี้บริษัทยังคงเน้นการออกนวัตกรรมการลงทุนใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุน หลังจากปีที่แล้วได้เปิดตัวโปรแกรม “Bualuang iTracker” ซึ่งเป็นรายงานที่รวบรวมธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้ามาทำการประมวลผลในเชิงปริมาณแบบ Win-Loss Analysis เพื่อสรุปเป็นรายงานสะท้อนพฤติกรรมในการลงทุนที่เกิดขึ้นจริง โดยมีการวิเคราะห์และแยกแยะข้อมูลที่จะบอกได้ถึงแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาการซื้อขายของแต่ละคนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และโปรแกรม “Bualuang iAlgo” ระบบส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นอัตโนมัติด้วยชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ (Algorithmic Order) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดหรือสร้างเงื่อนไขในการส่งคำสั่งในรูปแบบต่างๆ เพื่อล็อกทำกำไร บริหารความเสี่ยง กำหนดจุดตัดขาดทุน โดยลูกค้าสามารถส่งคำสั่งได้ด้วยตนเองทางอินเตอร์เน็ตหรือมอบหมายให้ผู้แนะนำการลงทุนส่งคำสั่งให้ก็ได้ ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงเป็นโบรกเกอร์รายแรกและรายเดียวที่ให้บริการนวัตกรรมทั้งสอง ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับดีมาก ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุนให้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลมากขึ้น บรรลุเป้าหมายของบริษัทฯ ในการเป็น Broker of choice ด้วยการให้ความรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนานักลงทุนและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์การส่งเสริมสังคมการลงทุนอย่างมีคุณภาพ