xs
xsm
sm
md
lg

สีเบเยอร์ ระบุตลาดสีปี 58 ทรงตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ตั้งเป้าโต 5% ยอดขาย 4,200 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ
กลุ่มสีเบเยอร์ ระบุตลาดสีปี 58 ทรงตัว มูลค่าตลาดรวมทั้งปี 22,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 4,200 ล้านบาท โต 5% หลังไตรมาสแรกโต 5% พร้อมจัดแคมเปญใหญ่ฉลองครบรอบ 55 ปี เปิดตัวแคมเปญ “เบเยอร์อนุรักษ์ไทย หัวใจอินโนเวชั่น”

นายวรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ รองประธานบริหาร กลุ่มบริษัท เบเยอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสียี่ห้อ “เบเยอร์” เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2558 จะค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ภาพรวมธุรกิจสีในปีนี้คาดว่าจะทรงตัว โดยมีมูลค่าตลาดรวมทั้งปีที่ประมาณ 22,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2557 โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4,200 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 5% จากปี 2557 ที่มียอดขาย 4,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนยอดขายในประเทศมากกว่า 90% และเป็นยอดขายในต่างประเทศประมาณ 10% เช่น เวียดนาม จีน พม่า ลาว กัมพูชา เป็นต้น ซึ่งในช่วงไตรมาสแรกยอดขายโต 5% ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ของตลาดสีซึ่งที่ผ่านมาจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักทุกปี

ทั้งนี้มูลค่าตลาดรวมสีทาอาคาร 22,000 ล้านบาท มีสัดส่วนเป็นกลุ่มสีทาอาคาร 50% กลุ่มงานไม้ 25% และที่เหลือเป็นตลาดสีอื่นๆ 25% ซึ่งสีเบเยอร์ ส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 25% ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสีในระดับพรีเมียมอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทตั้งงบในการทำการตลาด จำนวน 300 ล้านบาท โดยการทำตลาดผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ และผ่านสื่อต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายโรงงาน เพิ่มกำลังการผลิตในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งโรงงานเดิม โดยสามารถเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิม 20 ล้านลิตร เป็น 40 ล้านลิตร โดยใช้งบลงทุนราว 800 ล้านบาท และขยายโรงงานศูนย์ผสมสีเบเยอร์คัลเลอร์ดีไซน์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ 2,000 ศูนย์ ภายในสิ้นปีนี้

“บริษัทอาศัยในช่วงที่ตลาดสีมีการเติบโตน้อยหันมาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับความต้องการในอนาคต ด้วยการเพิ่มเครื่องจักร ลดการปริมาณการใช้คาร์บอน และไฟฟ้า รวมถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” นายวรวัฒน์ กล่าว

เนื่องในโอกาสครบรอบ 55 ปี บริษัทมีแผนจัดแคมเปญด้วยการตอกย้ำความเป็นไทย ควบคู่กับนวัตกรรมภายใต้แคมเปญ “เบเยอร์อนุรักษ์ไทย หัวใจอินโนเวชั่น” โดยมุ่งมั่นนำนวัตกรรมเข้ามาพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แนวคิด “Eco-Wellness Innovation” เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ เบเยอร์คูล ช่วยประหยัดไฟฟ้า 25% เบเยอร์ชิลล์ ไดมอนด์ ด้วยฟิล์ม ช่วยรักษาบ้านให้สะอาด สีคงทน เบเยอร์ชิลด์ โฟโต้คลีน ช่วยฟอกอากาศ และเบเยอร์อะควา ทาง่าย แห้งไว ไร้กลิ่น

ส่วนโครงการลงทุนร่วมกับบริษัทเอสซีจี ที่ประเทศอินโดนีเซีย ขณะนี้ได้ชะลอการลงทุนไว้ก่อน เนื่องจากเอสซีจี มีการปรับเปลี่ยนทีมทำงานชุดใหม่ โดยแนวทางการลงทุนในระยะต่อไปจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง หรือบริษัทอาจจะมีการลงทุนเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น