“คลัง” หนุนนายกฯ ใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาสลากเกินราคา และการประมง ยอมรับอียูแจกใบเหลืองประมงไทยกระทบเพียงเล็กน้อย “สมหมาย” ลั่นเดินหน้าปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ หลังอนุมัติเอกชน 4 ราย ด้านศรีสวัสดิ์ มั่นใจไม่มีปัญหาหนี้เสีย เริ่มพรุ่งนี้วันแรก ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปีนี้ 500 ล้านบาท
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน 6 เดือนที่ผ่านมาว่า โดยรวมเป็นที่น่าพอใจ แต่ยอมรับว่ากระทรวงคลัง สอบตกการแก้ไขปัญหาสลาก เพราะมีปัญหาซับซ้อน แม้ที่ผ่านมา ประธานบอร์ด และสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะมุ่งแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ยังพบว่ามีปัญหาสลากฯ โดยแต่ละปีมีเงินถึง 18,000 ล้านบาท ตกไปอยู่ในมือพ่อค้าคนกลาง เพราะสำนักงานสลากฯ ขายออกแบบให้ส่วนลด แต่กลับมีการนำไปขายเกินราคา
นายสมหมาย กล่าวว่า หลังจากนี้คาดว่าจะแก้ไขได้ผ่านการใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี มาตรา 44 เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะหากนำมาใช้อย่างสร้างสรรค์จะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมาก และนำมาแก้ไขทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ปัญหาสลากจะได้หมดไปไม่มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา หลังจากนั้นครึ่งปีหลังทุกมาตรการจะเห็นผลจนสอบผ่านทุกด้าน
ส่วนกรณีสหภาพยุโรป (อียู) ให้ใบเหลืองไทยต่อการทำประมงที่ไม่มีการควบคุมแรงงานผิดกฎหมายนั้น ยอมรับอาจส่งผลต่อสินค้าไทยเพียงเล็กน้อย และมาตรการดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยต้องเร่งแก้ไขปัญหาตามข้อสังเกตของอียู เหมือนกับระบบการบินของไทยที่ต้องได้รับการพัฒนาตามมาตรฐานสากล จึงต้องใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีแก้ปัญหา ส่วนแนวโน้มอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) คาดว่าอยู่ที่ร้อยละ 3 ภายใต้คาดการณ์ส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ อยู่ที่กว่าร้อยละ 1 จึงคาดว่าปัจจัยหลายด้านจะคลี่คลายมากขึ้น
ส่วนความคืบหน้าโครงการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ รมว.คลัง ระบุว่า ขณะนี้ได้ออกใบอนุญาตให้แก่บริษัทเอกชน 4 ราย ในการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเอกสารอีก 11 ราย ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการปล่อยสินเชื่อได้ภายในไตรมาสนี้ โดยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบมากขึ้น และลดสัดส่วนหนี้นอกระบบลง
ด้าน น.ส.ธิดา แก้วบุตตา กรรมการบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 บริษัทแม่ของบริษัท เงินสดทันใจ หนึ่งในบริษัทที่ได้ใบอนุญาตการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) บริษัท ศรีสวัสดิ์ จะปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ให้แก่ประชาชนรายย่อยเป็นวันแรก ซึ่งสาเหตุที่เข้าร่วมโครงการนี้เพราะเห็นช่องทางการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จากประชาชนที่เคยเป็นหนี้นอกระบบให้หันมาขอสินเชื่อในระบบแทน ยอมรับว่ามีความกังวลต่อการปล่อยสินเชื่อครั้งนี้บ้าง แต่เชื่อว่าจากศักยภาพที่บริษัทมีอยู่ บวกกับการคัดกรองผู้ขอสินเชื่อเข้มงวดกว่าปกติ จะทำให้บริษัทมีความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ลดลง
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ปีนี้ 500 ล้านบาท รายละ 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 36 ต่อปี โดยปีนี้วางกรอบเพดานการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ไม่เกินร้อยละ 10 ซึ่งทางบริษัทได้กันสำรองหนี้เสียไว้ร้อยละ 1 ของจำนวนการปล่อยสินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม จะมีการแยกบัญชีสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์กับสินเชื่อปกติของบริษัทออกจากกัน เพื่อให้สามารถตรวจสอบ และดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากไม่มีผู้ค้ำประกัน โดยการพิจารณาปล่อยสินเชื่อดังกล่าวจะต้องให้ผู้ขอสินเชื่อแจ้งวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อที่จะต้องเน้นไปที่การประกอบกิจการมากกว่าการใช้จ่ายทั่วไป และติดตามว่าผู้ขอสินเชื่อใช้เงินตามวัตถุประสงค์หรือไม่ รวมถึงคำนวณความสามารถการชำระหนี้ และหากตรวจสอบพบรายใดมีความเสี่ยงสูงอาจต้องมีผู้ค้ำประกันด้วย
สำหรับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่ได้รับใบอนุญาตแล้วมีทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย บริษัทเงินสดทันใจ, บริษัทไทยเอซ แคปปิตอล, บริษัทแมคคาเล กรุ๊พ และบริษัท สหไพบูลย์ (2558) และอีก 11 ราย อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเอกสาร