ผู้ถือหุ้น “เมืองไทย ลิสซิ่ง” ไฟเขียวปันผล ปีนี้เปิดสาขาเท่าตัวหวังกินรวบตลาดล่าง

ผู้ถือหุ้น “เมืองไทย ลิสซิ่ง” ไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.13 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 11 พ.ค.58 นี้ ผู้บริหารเปิดเกมรุกในปี 58 ภายใต้ยุทธศาสตร์ขยายตัวทั่วไทย หวังกินรวบลูกค้าในระดับ “รากหญ้า” ที่มีความต้องการสินเชื่อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงิน เตรียมเปิดสาขาเพิ่มเท่าตัว จากเดิมตั้งเป้าเปิดสาขา 150 แห่งทั่วไทย เป็น 300 แห่ง ลั่นพร้อมลุย “นาโนไฟแนนซ์” ทันที หากแบงก์ชาติประกาศให้ไลเซนส์

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2558 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลจากงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2557 เป็นเงินสดในอัตรา 0.13 บาท/หุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 29 เมษายน และปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล ตามมาตรา 225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 30 เมษายน กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 11 พฤษภาคม 2558

สำหรับแผนการดำเนินงานของ MTLS ในปี 2558 นายชูชาติ กล่าวว่า เตรียมเปิดสาขาเพิ่มอีก 300 แห่ง จากเดิมตั้งเป้า 150 แห่ง หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัว เพื่อตอบสนองความต้องการสินเชื่อของกลุ่มลูกค้าในระดับล่างที่มีความต้องการสินเชื่อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีข้อจำกัดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน โดยสาขาที่เปิดใหม่จะกระจายไปทั่วประเทศ ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ขยายตัวทั่วไทย”

ขณะเดียวกัน ในปีนี้พนักงานของบริษัทจะมีการเดินตลาดถี่ขึ้น และมีการประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าได้รู้จัก และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของบริษัทผ่านสื่อวิทยุท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม

“ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เราได้เปิดสาขาใหม่เพิ่ม 170 สาขา ซึ่งกระแสตอบรับจากลูกค้าดีมาก ทำให้ต้องปรับแผนเปิดสาขาใหม่เป็นปีละ 300 สาขา (2558-2560) ซึ่งจะทำให้ภายในสิ้นปี 2560 มีสาขาทั่วประเทศถึง 1,400 สาขา จากเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 สาขา” นายชูชาติ กล่าว

นายชูชาติ กล่าวว่า การเปิดสาขาเพิ่มจะทำให้ฐานลูกค้า และยอดปล่อยสินเชื่อของ MTLS ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2558 ตั้งเป้าขยายสินเชื่อเพิ่มเป็น 16,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

“ผมมั่นใจว่ายอดปล่อยกู้เป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน เพราะในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยอดสินเชื่อเพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยอดปล่อยสินเชื่อไม่น่าจะพลาดเป้า” นายชูชาติ กล่าว

นายชูชาติ กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว ทำให้ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของแหล่งเงินทุนในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเห็นได้จากสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.7 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 2.1 เท่า ทำให้สามารถกู้เพิ่มได้อีกกว่า 16,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้สำหรับปล่อยกู้

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการบริหารความเสี่ยงภายใต้ MTL Model เชื่อว่าจะสามารถรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในปีนี้ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 1.5% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ซึ่งถือว่าต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่มีค่าเฉลี่ยประมาณ 4-6%

ทั้งนี้ ในปี 2558 บริษัทเตรียมขยายพอร์ตสินเชื่อในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งถือเป็นสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ เพิ่มเป็น 5% ขณะที่สินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 70% และสินเชื่อรถยนต์ รถยนต์เพื่อการเกษตรอยู่ที่ 25% จากเดิมที่ยังไม่ได้รุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลมากนัก

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง กล่าวอีกว่า ในส่วนของการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ล่าสุด ได้ยื่นขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปแล้ว และพร้อมดำเนินการปล่อยสินเชื่อได้ทันทีหลังได้รับไลเซนส์ เนื่องจากมีฐานลูกค้า 6-7 แสนคน ไว้รองรับอยู่แล้ว และการขยายสาขาเพิ่มขึ้นทั่วประเทศไทย ทำให้โอกาสในการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
อีกด้วย