xs
xsm
sm
md
lg

ดอลลาร์ยังกดดันราคาทองคำ รอจีนออกมาตรการกระตุ้น ศก.เพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ จากแรงกดดันเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว “วาย แอล จี” คาดหากเงินเฟ้อจีนยังต่ำจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่ม ช่วยผลักดันทองคำปรับตัวขึ้น แนะระยะสั้นเก็งกำไรในกรอบ รองรับการแกว่งตัว Side Way

“วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงภาพรวมราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา ยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่ถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ยังคงมีความคิดให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งยังอยู่ในช่วงมิถุนายน อย่างไรก็ตามราคาทองคำได้ฟื้นตัวขึ้นมาหลังตัวเลขเงินเฟ้อ และดัชนีผู้บริโภค (CPI) มีการปรับตัวอยู่ในทิศทางที่ชะลอตัวลง ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มของที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำของจีน และถือว่าเอื้ออำนวยให้ธนาคารกลางจีน สามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ จึงทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มของจีนในไม่นานนี้ และมีผลให้ราคาทองคำฟื้นตัว

โดยปัจจัยที่ต้องจับตาทิศทางค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ จากการหยุดทำการช่วงเทศกาล แต่ราคาทองคำในตลาดโลกมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ดัชนี CPI และจีดีพีของจีน โดยหากตัวเลขเศรษฐกิจไม่กระเตื้องขึ้น อาจได้เห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ววัน และดัชนีผู้บริโภค CPI ของฝั่งสหรัฐฯ โดยหากภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับต่ำ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจไม่เกิดขึ้นในระยะอันใกล้ แต่หากเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นก็อาจเป็นปัจจัยให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น
 


“กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ ประเมินว่าการเคลื่อนไหวของในกรอบ โดยมีแนวต้านอยู่ที่ 1,220 เหรียญ/ออนซ์ และแนวรับ 1,180 เหรียญ/ออนซ์ หากราคาไม่ทะลุไปด้านใดด้านหนึ่งอาจมีลักษณะการแกว่งตัวออกด้านข้าง หรือ Side Way นักลงทุนอาจใช้กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น โดยเก็งกำไรจากการแกว่งตัวในกรอบ แต่หากราคาทะลุกรอบด้านบนไปได้จะมีแนวต้านถัดไป 1,250 เหรียญ/ออนซ์ และหากปรับตัวลงมาที่ระดับ 1,180 เหรียญ ราคาอาจปรับตัวลงต่อ โดยมีแนวรับถัดไป 1,150 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งนักลงทุนควรมีการตั้ง Stop Loss ปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมต่อทิศทางของราคา”
กำลังโหลดความคิดเห็น