เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - จีนเผยตัวเลขเงินเฟ้อของเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา พบการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 โดยมี 'ราคาอาหาร' เป็นปัจจัยหลักของภาวะเงินเฟ้อ
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (the National Bureau of Statistics: NBS) เผย (14 ต.ค.) ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ - CPI) ของจีน ในเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าเดือน ส.ค. ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 2.6 และมากกว่าการประเมินของตลาดที่คาดการณ์ไว้ว่า อัตราเงินเฟ้อจีนจะเพิ่มขึ้นไปที่ร้อยละ 2.9 อีกด้วย
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของราคาอาหารเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ภาวะเงินเฟ้อจีนเกิดการขยายตัว โดยสำนักงานฯ ชี้สาเหตุว่าเป็นเพราะช่วงหยุดยาวติดต่อกัน 7 วัน เนื่องในวันชาติจีน (1 ต.ค.) ซึ่งเริ่มขึ้นช่วงปลายเดือน ก.ย. ถึงต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ผสมรวมกับสถานการณ์อุทกภัยและภาวะแห้งแล้งในบางพื้นที่ของประเทศ
ทางด้านอี๋ว์ ชิวเหม่ย นักวิเคราะห์อาวุโสของสำนักงานฯ กล่าวว่า ราคาในธุรกิจการท่องเที่ยวและราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น อันมาจากสภาพอากาศหนาวเย็นของฤดูใบไม้ผลิที่เดินทางมาเยือนจีน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของภาวะเงินเฟ้อนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนักสถิติฯ ระบุเพิ่มเติมว่า ดัชนีผู้บริโภค หรือซีพีไอในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบรายปี
ขณะเดียวกัน สำนักงานฯ ยังได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ - PPI) ของเดือน ก.ย. ว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบรายเดือน โดยเขยิบขึ้นจากร้อยละ 0.1 ของเดือน ส.ค. นับเป็นการปรับตัวครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังต้องประสบกับภาวะการชะลอตัวของดัชนีพีพีไอฯ ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา
อนึ่ง นักวิเคราะห์อี๋ว์ แสดงความเห็นว่า “ดัชนีพีพีไอฯ ได้สะท้อนอุปสงค์ในตลาดที่กำลังขับเคลื่อนไปในทางที่ดีขึ้น และภาวะเศรษฐกิจระดับล่างเริ่มมีการฟื้นตัวอย่างมั่นคงอีกด้วย”
