เอเจนซี - หน่วยงานจีนเผย ภาวะเงินเฟ้อลดลง เนื่องจากรัฐบาลสามารถคุมราคาอาหารได้ ขณะที่ธนาคารกลางจีน ก็ลดการคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อเปิดทางสู่การปฏิรูปการเงิน
สื่อต่างประเทศรายงาน (10 ธ.ค.) อ้างการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อจีน ว่าในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ภาวะเงินเฟ้อรวมได้ลดระดับลงไปที่ร้อยละ 3.0 จากร้อยละ 3.2 เมื่อเดือนก่อน เนื่องจากราคาค่าอาหารลดต่ำลง
รายงานข่าวระบุว่า ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง ได้ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะหนี้สินเชื่อผ่านสถาบันการเงินต่างๆ ที่พอกพูนเมื่อตอนต้นปี จนธนาคารกลางของจีน ต้องดูดซับสภาพคล่องในระบบการเงินของประเทศ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสที่ธนาคารกลางจีน จะสามารถลดการคุมเข้ม อีกทั้งดำเนินการปฏิรูประบบการเงิน ผ่อนคลายนโยบายอัตราดอกเบี้ย ให้เป็นไปตามกลไกตลาดได้มากขึ้น ขณะที่ในส่วนของ ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพฤศจิกายนนั้น พบว่ายังคงอยู่ต่ำติดลบ คืออยู่ที่ร้อยละ -1.4 ซึ่งต่ำกว่าที่เคยลบอยู่ถึงร้อยละ 1.5 ในเดือนตุลาคม
ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ระดับอัตราดอกเบี้ยส่วนต่างในการซื้อขายพันธบัตร จะพุ่งสูงไปที่ร้อยละ 1.0 - 1.5 สูงมากจนใครๆ วิตกว่าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อโดยรวมของประเทศพุ่งขึ้น แต่จากนโยบายและตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ ที่รัฐบาลได้เผยออกมากลับพบว่า สภาวะเศรษฐกิจจีนดีขึ้นในหลายทาง โดยเมื่อที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ธนาคารกลางของจีน ได้ประกาศอนุมัติให้สถาบันการเงินการธนาคารของจีน สามารถออกตั๋วเงินฝากระหว่างธนาคาร ซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยตามภาวะตลาดได้ รวมถึง ตัวเลขยอดการส่งออกของประเทศ ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 เทียบเป็นรายปี สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์การขยายตัวไว้ที่ประมาณร้อยละ 7 โดยเพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 202,200 ล้านดอลลาร์ จนทำให้นักวิเคราะห์หลายคน ที่เคยคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจจีนในปีนี้ กลับมาเชื่อมั่นว่าจีนจะสามารถขยายการเติบโตเศรษฐกิจได้ตามเป้าที่วางไว้ร้อยละ 7.5