xs
xsm
sm
md
lg

“คลัง” เตรียมเจรจา “ร.ฟ.ท.” เข้าบริหารที่ดินมักกะสัน แลกภาระหนี้กว่า 8 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระทรวงการคลัง เตรียมเจรจาการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เข้าบริหารที่ดินมักกะสัน แลกภาระหนี้กว่า 80,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมที่ดินรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารกรมธนารักษ์ เจรจากับ ร.ฟ.ท. วันที่ 8 เมษายน 2558 เพื่อนำที่ดินบริเวณสถานีรถไฟมักกะสัน พื้นที่ 490 ไร่ จากทั้งหมดบริเวณดังกล่าว 700 ไร่ เพื่อนำมาพัฒนาเกิดประโยชน์ มีทั้งสวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียว พื้นที่แก้มลิงรองรับปัญหาน้ำท่วม กทม. และการสร้างอาคารในเชิงพาณิชย์ จากเดิมนโยบายของรัฐที่ผ่านมา เน้นสร้างเป็นอาคารเชิงพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่

สำหรับการบริหารพื้นที่ เบื้องต้นเ ปิดให้เอกชนเข้ามาบริหาร เช่น ระยะยาวอาจถึง 99 ปี หรืออาจให้มีระยะสั้นกว่านั้นแล้วแต่การเจรจา เพื่อนำรายได้มาหักล้างกับการชดใช้ภาระหนี้ให้แก่ ร.ฟ.ท. จากปัจจุบันมีภาระหนี้ทั้งหมด 110,000 ล้านบาท เป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังรับผิดชอบดูแลประมาณ 80,000 ล้านบาท และเป็นภาระหนี้ที่ ร.ฟ.ท.รับผิดชอบอีกส่วนหนึ่ง จึงต้องเจรจายอดรวมการหักลบกลบหนี้ว่าจะเป็นเท่าใด เพื่อกำหนดแผนการลงทุน และพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว

นอกจากนี้ เตรียมที่ราชพัสดุรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยมีพื้นที่ประมาณ 12 ล้านไร่ นำมาใช้ประโยชน์ จึงนำพื้นที่บางส่วนพัฒนารองรับพื้นที่อุตสาหกรรม จากแผนเฟสแรกจะเน้นพัฒนาพื้นที่กรมธนารักษ์ เศรษฐกิจพิเศษ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยมีทั้งการจัดหาที่ดิน และบริหารจัดการผ่านบริษัทเอกชน เพื่อบริหารนิคมอุตสาหกรรมด้วยการนำพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ที่ดิน ส.ป.ก. และที่ราชพัสดุมาพัฒนา เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมตามแนวชายแดน

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า กำชับให้กรมธนารักษ์เร่งรัดติดตามภาระหนี้จากรัฐวิสาหกิจและเอกชน ซึ่งค้างชำระหนี้จากการเช่าที่ราชพัสดุ เช่น อีสท์วอเตอร์ และการท่าเรือแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งค้างหลายร้อยล้านบาท หากบริหารจัดการทรัพย์สินให้มีประสิทธิภาพจะสร้างรายได้เข้าคลัง จากปัจจุบัน 4,000-5,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 6,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งเตรียมนำที่ราชพัสดุปรับเป็นพื้นที่จุดพักรถ ร้านค้า ห้องน้ำ ร้านอาหารริมทาง จำนวน 41 จุด ทั่วประเทศตามถนนสายหลัก เพื่อให้บริการประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาล
กำลังโหลดความคิดเห็น