xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้าน จ.ยะลาลุกฮือ! บุกศาลากลาง ยื่นหนังสือจัดสรรที่ทำกิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยะลา - ม็อบชาวบ้านผู้ไร้ที่ทำกินกว่า 300 คน บุกศาลากลางยะลา ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ให้จัดสรรที่ทำกิน หลังมีพื้นที่ราชพัสดุกว่า 1,400 ไร่ ถูกนายทุนยึดครองมาหลายสิบปี

วันนี้ (20 มี.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มชาวบ้านจาก ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา จำนวนกว่า 300 คน รวมตัวกันเรียกร้องขอความเป็นธรรมในกรณีการจัดสรรที่ทำกินในพื้นที่ ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา โดยได้นำเอกสารการแสดงรายชื่อบุคคล จำนวนกว่า 300 ฉบับ และข้อเรียกร้องขอการจัดสรรที่ทำกิน ยื่นให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา โดยมี นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เป็นตัวแทนพบกับกลุ่มชาวบ้านที่เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรม และได้ให้แกนนำเข้าห้องประชุมชี้แจงข้อเรียกร้อง ภายในสำนักงานของธนารักษ์ จ.ยะลา

 
ซึ่งจากการสอบถามถึงที่มาของต้นเหตุการณ์เรียกร้องขอความเป็นธรรมในการจัดสรรพื้นที่ทำกินดังกล่าว ทราบว่า ในพื้นที่ ม.2 บ้านบ่อน้ำร้อน ต.ตาเนาะแม่เราะ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นพื้นที่ราชพัสดุจำนวนกว่า 1,400 ไร่ โดยมี นายวีระวัฒน์ วัฒนายากร เป็นผู้ทำสัญญาเช่าพื้นที่ดังกล่าวกับธนารักษ์ จ.ยะลา

 
ซึ่งจะหมดสัญญาเช่าในเดือนธันวาคม 2558 นี้ และชาวบ้านผู้ซึ่งได้ร่วมกันจัดตั้งสมาคมผู้ไร้ที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน อ.เบตง จ.ยะลา ได้รวมตัวกันขอความเป็นธรรม ให้ทางจังหวัดได้พิจารณาไม่ให้ผู้เช่ารายเดิมทำสัญญาเช่าต่อ เนื่องจากที่ผ่านมา ชาวบ้านผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย และที่ทำกินได้ไปขอแบ่งเช่าพื้นที่เพื่อทำมาหากิน แต่ถูกปฏิเสธ

 
จากนั้น ผู้เช่าเจ้าของพื้นที่ดังกล่าวได้แบ่งที่ดินประมาณ 5 ไร่ ให้แก่วัดธรรมกาย ทำการเช่าพื้นที่เป็นเงินหลายล้านบาท ซึ่งทำให้ชาวบ้านเกิดความเห็นว่าไม่มีความเป็นธรรมต่อประชาชนที่จะใช้ประโยชน์ในพื้นที่ราชพัสดุ ซึ่งเป็นที่ดินของหลวง ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกัน และเคยทำหนังสือยื่นไปถึง คสช. รวมถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่เรื่องราวดังกล่าวกลับเงียบหายไป

 
นายประเสริฐ เกาะกลาง แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าว จำนวน 1,400 ไร่ ถูกนายทุนเพียงคนเดียวเช่าพื้นที่หาประโยชน์มากว่า 60 ปี แต่ชาวบ้านซึ่งไม่มีที่อยู่อาศัย และที่ทำกินไปขอเช่าพื้นที่ต่อเพื่อทำกินกลับไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวนั้นมีประโยชน์ทับซ้อนกันมากมาย ชาวบ้านจึงต้องการให้ทางรัฐบาล หรือผู้ที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาถึงความเป็นธรรม และเห็นใจแก่ประชาชนที่ไร้ที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน ซึ่งต้องการให้ธนารักษ์ ยกเลิกการต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิม และนำพื้นที่ดังกล่าวจัดสรรให้ประชาชนผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัย และที่ทำกินได้เช่าตามระเบียบของทางราชการ โดยชาวบ้านทุกคนต่างยินยอมที่จะเช่า เพราะทุกวันนี้แม้จะอยู่ในพื้นที่แต่ก็ไม่มีที่อยู่อาศัย และที่ทำกินของตนเองจำนวนกว่า 400 ครัวเรือน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น