ตรัง - ตำรวจเมืองตรัง รวบตัวแก๊งเรียกค่าไถ่นักธุรกิจชาวจีนด้วยการพาไปกักขังที่บ้านหลังหนึ่ง ก่อนโทร.เรียกเงิน 5 ล้านบาท พบ 1 ในคนร้ายเป็นหลานชายชาวจีน แต่ยังให้การปฏิเสธ
วันนี้ (30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง แถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายคดีเรียกค่าไถ่ มีอาวุธปืน และกักขังหน่วงเหนี่ยว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00-19.00 น. ขณะที่ นายพาน หงบิง นักธุรกิจสัญชาติจีน เจ้าของบริษัท ไทยหย่งเชิง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 60/2 หมู่ที่ 8 เขตเทศบาลตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง กลับเข้าไปในบ้านพักที่บริษัทก็พบว่า นายหยุนปิง ซือ อายุ 26 ปี นักธุรกิจสัญชาติจีน ซึ่งเป็นหลานชายที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน และกำลังถูกมัดตัวอยู่ในบริษัทโดยมีคนร้าย จำนวน 3 คน สวมหมวกไอ้โม่ง และ 1 ในนั้นมีอาวุธปืนได้เข้ามาควบคุมตัว ก่อนที่จะพาทั้งคู่ขึ้นรถยนต์ออกจากบ้านพักไป เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม เวลาประมาณ 00.30 น.
อย่างไรก็ตาม ระหว่างทางคนร้ายได้มีการเปลี่ยนรถยนต์ และปล่อยตัว นายหยุนปิง ก่อนจะพา นายพาน ไปกักขังที่บ้านหลังหนึ่ง จากนั้นคนร้ายได้โทรศัพท์ติดต่อพูดคุยกันในลักษณะเพื่อเรียกค่าไถ่ ต่อมา ในวันเดียวกันเวลาประมาณ 22.00 น. คนร้ายได้พา นายพาน ไปส่งมอบให้แก่ นายหยุนปิง ที่ริมถนนแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินทางมาหา น.ส.รัตนา ซังชั่ว ภรรยาสัญชาติไทยของ นายพาน ที่บริเวณหน้าโรงแรมเรือรัษฎา ถนนตรัง-พัทลุง ในเขตเทศบาลนครตรัง ซึ่ง น.ส.รัตนา ได้แจ้งให้ นายพาน ผู้เป็นสามีทราบว่า ตนได้เบิกเงินสดจากธนาคาร จำนวน 5 ล้านบาท มาให้แก่กลุ่มคนร้ายที่หน้าโรงแรมดังกล่าวเพื่อแลกกับการปล่อยตัว นายพาน ให้เป็นอิสระ
ต่อมา เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม นายพาน ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผบก.ภ.จว.ตรัง จนนำไปสู่การจัดตั้งชุดสืบสวนคลี่คลายคดี และจากข้อมูลพบว่า 1 ในคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายหยุนปิง หลานชายของ นายพาน จึงได้เชิญตัวมาทำการสอบสวนในฐานะพยาน แต่ นายหยุนปิง ให้การปฏิเสธ แต่จากหลักฐานทางเทคโนโลยีเชื่อได้ว่า นายหยุนปิง น่าจะมีส่วนรู้เห็น โดยได้ร่วมกับ นายเสน่ห์ นกรู้รัก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ที่ 10 ตำบลบางดี อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง และนายอุสา สุเหร็น อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 6 ตำบลบ่อน้ำร้อน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ทำการก่อเหตุเรียกค่าไถ่ในครั้งนี้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้เรียกตัว นายอุสา มาทำการสอบสวน ซึ่ง นายอุสา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ นายหยุนปิง นายเสน่ห์ และพวกรวมจำนวน 6 คน ก่อเหตุในครั้งนี้ ก่อนที่ นายอุสา จะพาไปตรวจยึดของกลางเป็นเงินสด จำนวน 1 ถุง และจำนวน 1 ไห พร้อมตรวจยึดรถยนต์ของ นายหยุนปิง หมายเลขทะเบียน กฉ 5020 ตรัง รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ ทั้งของ นายหยุนปิง และนายอุสา รวมจำนวน 2 เครื่อง มาเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี พร้อมขออนุมัติศาลจังหวัดตรังเพื่อออกหมายจับ นายเสน่ห์ และพวกที่เหลือรวมจำนวน 4 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป