ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,574.57 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14.23 จุด หรือ 0.21% ระหว่างวันปรับตัวสุงสุดที่ 1,583.92 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,569.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,378.72 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
1.TRUE ปิดที่ 12.70 บาท ลดลง 0.20 มูลค่าการซื้อขาย 2,490,123 ล้านบาท
2.KTB ปิดที่ 22.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 มูลค่าการซื้อขาย 1,492,110 ล้านบาท
3.KBANK ปิดที่ 232.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 มูลค่าการซื้อขาย 1,455,498 ล้านบาท
4.ITD ปิดที่ 8.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 มูลค่าการซื้อขาย 1,443,026 ล้านบาท
5.PTT ปิดที่ 344.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 มูลค่าการซื้อขาย 1,210,864 ล้านบาท
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแนวโน้มทิศทางบวกไปในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาค หลังจากธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ประกาศมาตรการ QE ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุน ซึ่งช่วยกระตุ้นเม็ดเงินการลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักลงทุนอาจต้องติดตามมติถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจทำให้เกิดการแกว่งตัวของตลาด และการเลือกตั้งกรีซ วันที่ 25 มกราคมนี้ ทั้งนี้ ทิศทางการลงทุนพิจารณาแนวต้านที่ 1,580 จุด ซึ่งหากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ให้ระวังแนวต้านถัดไปที่ 1,600 จุด
