ตลาดหุ้นเกิดใหม่ดีขึ้นพรึบขานรับมาตรการคิวอีของสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นไปตามที่คาดเอาไว้ แต่ถือว่ามีเซอร์ไพรส์เพราะเม็ดเงินสูงกว่าที่ประเมินไว้ และมีระยะเวลาเพิ่มขึ้น เชื่อจะมีผลให้เม็ดเงินไหลออกจากอียูเพื่อหาแหล่งลงทุนที่ผลตอบแทนดีกว่า
นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย กล่าวถึงผลกระทบหลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศใช้มาตรการคิวอี ในปริมาณเงินที่มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ คือ การเข้าซื้อพันธบัตรเดือนละ 60,000 ล้านยูโร จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 50,000 ล้านยูโร โดยระบุว่า แม้ว่าจำนวนเงินที่ ECB ประกาศจะไม่มากเท่ากับที่สหรัฐฯ เคยทำก่อนหน้านี้ แต่ถ้าเทียบวงเงินกับขนาดเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มยูโร บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง ก็น่าจะทำให้เกิดสภาพคล่องไหลออกจากยุโรปเพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่าอย่างแน่นอน
โดยตลาดเกิดใหม่ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วยจะได้รับผลบวกจากเงินทุนจำนวนนี้อย่างแน่นอน เห็นได้จากตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งตอบรับผลจากมาตรการนี้แล้วเช่นกัน แต่คงตอบได้ยากว่า ตลาดหุ้นของไทยจะได้รับอานิสงส์จากการประกาศมาตรการคิวอีของธนาคารกลางยุโรปมากน้อยเพียงใด เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกที่มีผลต่อตลาดหุ้นของไทย
ส่วนผลกระทบต่อตลาดเงิน รวมทั้งเงินบาทไม่น่าจะมีมากนัก เนื่องจากก่อนหน้านี้ค่าเงินบาทได้ตอบรับต่อข่าวมาตรการคิวอีของสหภาพยุโรปมาแล้วระดับหนึ่ง ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของเงินบาท แม้ว่าจะแข็งค่าขึ้นบ้างแต่ก็ไม่น่าจะมากนัก
ส่วนผลกระทบจากในประเทศ โดยเฉพาะกรณีการลงมติถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตประธานรัฐสภา ก็จะมีผลต่อตลาดหุ้นด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งยังต้องรอผลการลงมติที่ชัดเจนอีกครั้ง