สนช.เตรียมลงมติถอดถอน “ยิ่งลักษณ์-สมศักดิ์-นิคม” ใช้วิธีลับ รวดเดียวทั้ง 3 สำนวน ฝ่ายความมั่นคงส่งตำรวจและทหารดูแลความเรียบร้อยรอบรัฐสภา ด้าน "พัชรวาท" อ้างป่วยไม่มาลงคะแนน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ม.ค.) เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะประชุมจะมีการประชุมเพื่อลงมติการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ระงับยับยั้งปล่อยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว นายสมศักดิ์ เกียรติ์สุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กรณีดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 เกี่ยวกับที่มา ส.ว. ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญปี 2550 ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหา
สำหรับการลงมติดังกล่าวจะเป็นการลงคะแนนลับ โดยจะมีการตั้งกรรมการตรวจสอบความเรียบร้อยและนับคะแนนก่อนที่จะให้ฝ่ายเลขาธิการรัฐสภาขานชื่อสมาชิกเพื่อออกมารับบัตรลงคะแนน 3 ใบ เพื่อลงมติรวดเดียวทั้ง 3 สำนวน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ
ส่วนบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยรอบรัฐสภา มีเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รักษาความปลอดภัยโดยรอบอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้สนับสนุน น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายสมศักดิ์ และนายนิคม อย่างไรก็ตามยังไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวใดๆ จากมวลชนกลุ่มใด
เวลา 10.20 น. การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เริ่มขึ้น นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานการประชุม โดยนายสมชาย แสวงการ สนช. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการกิจการสภานิติแห่งชาติ (วิปสนช.) เสนอให้ดำเนินการลงคะแนนทั้ง3 กรณีรวมกัน เพื่อความรวดเร็วและโปร่งใสเป็นธรรม ไม่ก่อครหาว่านับคะแนนคดีใดไปก่อนแล้วจะส่งผลต่อคดีอื่นที่ตามมา โดยจะมีสักขีพยานทั้งสื่อและสมาชิก ส่วนขั้นตอนการลงคะแนนให้ขานชื่อสมาชิกเรียงตามอักษรโดยลงคะแนนในบัตรทั้ง3 ใบ โดยคณะทำงานได้แบ่งบัตรออกเป็น3 คือ โดยบัตรสีชมพูเป็นของนายนิคม บัตรสีขาวของนายสมศักดิ์ สีเหลืองยิ่งลักษณ์ จากนั้นเมื่อทำการตรวจนับบัตรครบแล้ว นำมาแยกเพื่อลงคะแนนในแต่ละคะคดีเพื่อความรวดเร็ว โปร่งใส
ด้านนายพรเพชร กล่าวว่า ตามข้อบังคับข้อ158 บอกแต่ให้ลงคะแนนโดยวิธีการลับ และวิธีการลงคะแนน ดังนั้นคำเสนอของนายสมชายไม่ขัดต่อข้อบังคับ ตนขอดำเนินการตามที่เสนอโดยมมติจะต้องให้มีคะแนนเสียไม่น้อยกว่า 3 ใน5 ขณะนี้มีสมาชิกจำนวนทั้งสิ้น 220 คน เท่ากับไม่น้อยกว่า 132 คน อันดับแลกให้มีการจับสลากสมาชิก3ชุดๆละ10 คน เพื่อดำเนินการลงคะแนนและตรวจนับคะแนน จากนั้นให้เลขาธิการวุฒิสภาขานชื่อจำนวนละ15 ชื่อให้มาลงคะแนนหน้าบัลลังก์ โดยสมาชิกเซนชื่อรับบัตรพร้อมหมายเลขด้วย โดยสมาชิกลงคะแนนเพียงถอดถอนหรือไม่ถอดถอนเท่านั้น ห้ามเขียนข้อความใดๆลงในบัตรลงคะแนนมิเช่นนั้นจะเป็นบัตรเสียทันที และห้ามเซ็นชื่อลงหมายเลขประจำตัวด้วยหรือถ้าไม่ลงคะแนนจะเก็บกับบ้านก็ไม่ได้ ห้ามนำบัตรออกนอกห้องที่ประชุมนี้ ส่วนการนับคะแนนต้องชูบัตรขึ้นมาพร้อมขานว่าถอดถอน หรือไม่ถอดถอน หรือบัตรเสีย
อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการลงคะแนน ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีบัตรเสียและการงดออกเสียควรเป็นกรณีใดบ้าง ขอให้ประธานได้วินิจฉัยเพื่อความชัดเจน โดยมีสมาชิกเสนอให้ยึดตามกติกาการเลือกตั้งทั่วไป ที่หากไม่มีการกาอะไรเลยให้ถือเป็นบัตรเสีย แต่มีบางส่วนแย้งว่าหากไม่มีการกาใดๆด้วยให้ถือว่างดออกเสียง
ดังนั้นนายพรเพชร จึงวินิจฉัยว่า หากเป็นบัตรเปล่าๆให้ถือว่างดลงคะแนน แต่หากมีการเขียนข้อความลงในใบลงคะแนนให้ถือว่าเป็นบัตรเสีย แต่ขอความร่วมมือกับสมาชิกพยายามให้มีบัตรเชนเขียนถ้อยคำลงไป เพราะอาจจะเสียหายแก่สนช.โดยรวม ส่วนกรณีหากสมาชิกเผลอใส่บัตรผิดสีผิดกล่องให้ถือว่าสามารถนับเป็นคะแนนได้ตามปกติ และเมื่อคณะกรรมการประกาศผลเสร็จ ให้ทำบัตรทั้งหมดถูกไปทำลาย
จนเมื่อเวลา 10.45 น. เริ่มเข้าสู่กระบวนการลงคะแนนโดยสมาชิกได้ทยอยลงคะแนนกันอย่างคึกคัก ขณะที่นายพรเพชรได้แจ้งว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ สนช. อดีตผบ.ตร. ได้แจ้งลาประชุมเนื่องจากป่วย ส่วนนายสถิต สวินทร สนช. ขอใช้สิทธิ์ลงคะแนนก่อนเนื่องจากต้องรีบไปโรงพยาบาล
