นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส คาดวันนี้ดัชนีน่าจะยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากวานนี้แม้ดัชนีจะสามารถยืนในแดนบวกได้อย่างต่องเนื่องแต่ไม่มี Volume หนุน ทำให้ไม่มีแรงส่งดัชนียังขาดแรงส่งให้ “พุ่งขึ้น” Break แนวต้านได้ในระยะใกล้นี้ ทั้งนี้ มองกรอบแนวต้านใหญ่ของ SET index รอบนี้มองไว้ที่ 1,549 จุด
“โครงสร้างการเคลื่อนไหวดูไม่ค่อยมั่นคง ดัชนีบวกแรงแต่ไม่มี Volume หนุน อาการแบบนี้ดูแล้วละเหี่ยใจ จะให้ขึ้นกระฉูด Break แนวต้านในเร็ววันคงเป็นไปได้ยาก ซึ่งการเคลื่อนไหวด้วย Volume น้อยนิด ทำให้ดัชนีมีความเสี่ยงที่จะต้องหดกลับลงมาพักตัวภายใต้รูปแบบ Ascending Triangle ตามจังหวะลู่เข้าสู่ปลายสามเหลี่ยมของ SET”
การประชุม ECB วันที่ 22 ม.ค.นี้ ได้รับความคาดหวังไว้ค่อนข้างสูง ผลสำรวจจากนักเศรษฐศาสตร์โดย Bloomberg พบว่า ราว 93% มอง QE รอบนี้จะมีขนาดราว 5 แสนล้านยูโร หรือ 6.35 แสนล้านเหรียญ ในจำนวนนี้นักเศรษฐศาสตร์ 57% คาดว่า ECB จะเน้นไปที่การเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมากกว่าตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ และ ECB จะแบ่งสัดส่วนการเข้าซื้อพันธบัตรตามขนาดเศรษฐกิจ หรือตามประเทศที่ contribute ใน EU มากสุดเรียงตามลำดับมากไปหาน้อย ได้แก่ เยอรมนี คาดว่าจะเข้าซื้อราว 18% ของวงเงิน, ฝรั่งเศส 14%, อิตาลี 12%, สเปน 9% ประเทศอื่นๆ ไม่เกิน 5% และ 8 ประเทศสุดท้ายไม่เกิน 1%โดยมีเงื่อนไขคือ เข้าซื้อไม่เกิน 20-25% ของหนี้สาธารณะของแต่ละประเทศ ยกเว้น กรีซ ที่จะไม่เข้าซื้อ เนื่องจากพันธบัตรของกรีซนั้นไม่ผ่านเกณฑ์ คือ ไม่อยู่ในระดับลงทุน
กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic : ยังคงเลือกใช้กลยุทธ์ Selective Buy ใน หุ้น P/E ต่ำเฉลี่ยกลุ่ม ผลประกอบการเด่น : SYNTEC, CHG หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง : AAV, BA, RCL, SCC (มีต้นทุนเชื้อเพลิงคิดเป็น 60% ของต้นทุนรวม) และหุ้นปันผลเด่น : ADVANC, INTUCH, AIT, SPALI
Portfolio Update : ADVANC, AIT, BA, CHG, RCL, STPI, SYNTEC, INTUCH (ซื้อ CHG)